ซ่อนเงื่อน ม.2 เสียบมือถือทิ้งไว้ในห้องเรียน หาย! โทรไปไม่รับ เช็กพิกัดอยู่ห้องผอ. เจ้าตัวแจงไม่เจตนา แค่ยึดไว้
เมื่อวันที่ 17 กันยายน นายสมชาย (นามสมมุติ) พ่อ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีซื้อโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อวีโว้ Y12 ให้ลูกชาย แต่โทรศัพท์กลับหาย ขณะเสียบชาร์จไว้ในห้องเรียน
ด.ช.เอ เล่าว่า ได้เสียบชาร์จมือถือเอาไว้บนโต๊ะครูหน้าห้องเรียน โดยใช้หนังสือปิดทับเอาไว้ จากนั้นลงไปทำกิจกรรมลูกเสือกับเพื่อน พอเสร็จก็กลับขึ้นมาบนห้อง พบว่าทั้งมือถือและสายชาร์จหายไป ตอนแรกคิดว่าอาจเป็นนักเรียนในโรงเรียนที่ขโมย จึงแจ้งครูประจำชั้นทราบ ครูจึงลองใช้มือถือโทรเข้าเครื่องของตนหลายครั้ง โทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย
ก่อนกลับบ้าน ครูจึงได้ประกาศหน้าเสาธงก่อนเลิกเรียน ขอตรวจกระเป๋านักเรียนทุกคน แต่ก็ไม่เจอ ก่อนที่เช้าวันต่อมา แม่ได้ให้ครูพาไปแจ้งความที่ สภ.หนองสองห้อง
ตนพยายามใช้แอพพลิเคชั่นค้นหาตำแหน่งมือถือที่หายไป จนช่วงสายวันที่ 15 ก.ย. พบพิกัดแจ้งว่าอยู่บริเวณด้านหลังเสาธง ตนกับครูอีกคนจึงพยายามเดินหา เพราะคิดว่านักเรียนที่ขโมยไปอาจเอาไปซ่อน แต่ก็ไม่เจอ กระทั่งเลิกเรียนก็กลับบ้าน จึงใช้แอพพลิเคชั่นจับสัญญาณอีกครั้ง คราวนี้แจ้งว่าอยู่หอพักแห่งหนึ่งแถว ต.สะแกโพรง จึงโทรไปบอกตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นยามวิกาล ไม่สามารถตรวจค้นได้
กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ย. ก็จับพิกัดได้ว่ามือถือกลับมาโผล่ในโรงเรียนอีก จึงโทรบอกตำรวจอีกครั้ง จากนั้นช่วง 11 โมง พ่อแม่และตนเดินทางไปโรงพัก ตำรวจโทรไปหา ผอ. ว่ามีใครเห็นมือถือน้องหรือไม่ แต่ ผอ. ก็ตอบว่าไม่เห็น แต่พอตำรวจแจ้งกลับไปว่า มีหลักฐานว่ามือถืออยู่ตรงไหน ไม่นาน ผอ. จึงได้นำมือถือมาส่งให้ที่โรงพัก โดยอ้างว่าไม่ได้เจตนาจะเอาไป แค่ยึดไว้ เพราะไม่ได้อนุญาตให้เด็กเอามือถือมาเรียน แต่ตนมองว่ามันย้อนแย้ง หากถ้ายึดไป ทำไมไม่เอาไว้ที่โรงเรียนหรือให้ฝ่ายปกครอง
ด้านผู้ปกครอง กล่าวว่า พอมีหลักฐานว่า คนที่หยิบเอาไปเป็นถึงผู้บริหารโรงเรียน หาก ผอ.ไม่มีเจตนาจะหยิบเอาไป ทำไมไม่แจ้งใครที่โรงเรียนหรือบอกผู้ปกครอง ว่าจะยึดเอาไว้ แต่นี้ปล่อยเงียบหายไปถึง 3 วัน ก่อนนำมาส่งให้ตำรวจ แล้วอ้างว่าไม่มีเจตนา ทั้งยังมาขอเคลียร์กับพ่อแม่ให้ถอนแจ้งความอีก ตนจึงอยากจะขอความเป็นธรรมด้วย
ที่มา : ข่าวสด