ระวังภัย! มติสั่งขับช้างป่าสีดอละมุดพ้นหมู่บ้านภายใน 7 วัน ป่าไม้รอเพียงเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร นำย้ายเข้าไปในผืนป่าพื้นที่ชั้นในสุดของอุทยานฯทับลานมรกดโลกห่างจากพื้นที่ ที่สีดอละมุดออกหากินใน 100 กม.เศษ ขณะสีดอละมุดยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองยังเพ่นพ่านออกหากินในหมู่บ้าน !!!
วันนี้ 21 กันยายน ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งโพธิ์ (อบต.) อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี นายชูชาติ บำรุง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งโพธิ์ (อบต.) เป็นประธานร่วมประชุม กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลบุพราหมณ์ (อบต.), องค์การบริหารส่วนตำบลแก่งดินสอ (อบต.), สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี, อุทยานแห่งชาติทับลาน, ผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มอนุรักษ์
ร่วมประชุมหารือวางแผนเกี่ยวกับการจับขนย้าย “สีดอละมุด” ช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ที่ถูกขับออกจากโขลงเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา แล้วออกมาหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ในพื้นที่ต่างๆ อาทิ หมู่บ้านทุ่งแฝก หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ์, หมู่บ้านวังอ้ายป่อง หมู่ 3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี และมักพังบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะในครัวรายวัน ทำการค้นหาอาหารทั้งข้าวสวยในหม้อที่หุงสุก, ข้าวสาร, ผงชูรส โดยติดใจที่สุดคือปลาร้า ในเบื้องต้นทางอุทยานฯได้ทำการติดสายรัดปลอกคอพร้อมสัญญาณ GPS ในการติดตามความเคลื่อนไหว หากบุกรุกพื้นที่ชาวบ้าน สามารถผลักดันกลับคืนผืนป่าได้ แต่สีดอละมุดยังคงออกหากินตามเขตพื้นที่ปลูกพืชไร่ พืชสวนไม่เว้นแต่ละวัน โดยชอบบุกเข้าพังบ้านเรือนชาวบ้านในการค้นหาของกินในครัว
ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.นี้ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จนชาวบ้านบ้านวังอ้ายป่อง ยามค่ำคืนต้องพากันไปอาศัยนอนศาลาการเปรียญวัด ถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่อุทยานและผู้ใหญ่บ้านร่วมกับชุดเฝ้าระวังช้างป่าจะทำการผลักดันทุกครั้ง เจ้าสีดอละมุดก็ยังออกมาหากินทุกวัน และฉลาดมีไหวพริบ มีการสับเปลี่ยนเวลาออกหากินเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รู้เวลาออกหากิน บางวันสร้างความปั่นป่วนปรับเปลี่ยนจุดหากิน ให้กับทางเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันสับสน ตั้งแต่ค่ำจนรุ่งสาง
นายสุชาติกล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้อยากให้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี ร่วมกับอุทยานแห่งชาติทับลานเร่งจับขนย้ายละมุดออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด ที่ผ่านมาสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรอย่างมาก และทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และทำร้ายเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานเสียชีวิต 1 ราย ทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการร่วมกันทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทั้งงบประมาณในการจับขนย้ายสีดอละมุดออกจากพื้นที่ ทั้งกำลังคน และรถแบ๊กโฮ
นายอำนาจ มะม่วงปรางค์ ผอ.สวนอนุรักษ์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากสื่อมวลชนทุกวัน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนเองได้รายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาและหน่วยเหนือรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดมา
ขณะนี้รอคำสั่งจากหน่วยเหนือมีคำสั่งจับขนย้ายสีดอละมุดให้ถูกต้อง และเป็นลายลักษณ์อักษร และทางอุทยานแห่งชาติทับลานได้เสนอให้จนรับทราบแล้วว่าจะนำไปไว้ที่ใด
ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในสุดของอุทยาน อยู่ห่างจากพื้นที่ที่สีดอละมุดออกหากินใน 100 กม.เศษ ซึ่งการจับขนย้ายช้างป่าออกจากพื้นที่ดังกล่าวนั้น ช้างป่าจะกลับมาอีกไม่ช้าก็เร็ว เพราะช้างเคยได้กินอาหารที่หลากหลายโดยเฉพาะพื้นที่การเกษตร จึงไม่ยอมกลับเข้าป่า
ขณะเดียวกันช้างตัวอื่นๆ รู้ว่าด้านนอกผืนป่ามีแหล่งอาหาร แหล่งน้ำสมบูรณ์ จึงพากันติดตามออกมาหลายตัว และจะทำสถานที่กักกันช้างสำหรับตัวที่ดื้อไว้ในพื้นที่ชั้นใน และจะร่วมกันปลูกแหล่งอาหารช้าง และโปงเทียม ตามที่กลุ่มอนุรักษ์เสนอมา
