สลด! หนุ่มกู้ภัยบันดาลโทสะ ใช้ปืนยิงหัวเมียดับ หลังตามง้อไม่สำเร็จ ก่อนยิงตัวตายตาม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ย.65 พ.ต.ท.ประชา นาคราช รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ห้วยกระเจา ว่าเกิดเหตุสามีใช้อาวุธยิงอดีตภรรยาเสียชีวิตก่อนจะยิงตัวตายตาม เหตุเกิดภายในร้านเสริมสวย ท้องที่หมู่ 11 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณภัทร์มงคล เหลืองกุลวัฒน์ ผกก.สภ.ห้วยกระเจ้า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ แพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยกระเจา และกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ที่เกิดเหตุเป็นห้องกระจกดัดแปลงเป็นร้านเสริมสวยประเภทแต่งเล็บ ทำผม จากการตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายนั่งพิงอยู่บนโซฟา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 เข้าที่ขมับซ้ายกระสุนทะลุขมับขวาไปโดนกระจกหน้าร้านจนแตกร้าวและเป็นรู 1 รู การแต่งกายนุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีส้ม โดยที่มือซ้ายของผู้เสียชีวิตยังคงกำอาวุธปืนเอาไว้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายต็อบ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน (EMS) เทศบาลตำบลแห่งหนึ่งในท้องที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอีก 1 ราย ลักษณะสภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่กับพื้นติดกับโซฟา สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 เข้าที่เหนือหูขวากระสุนทะลุซ้ายไปโดนฝ้า 1 รู การแต่งกายนุ่งกางเกงขายาวสีเทา สวมเสื้อยืดแขนสั้นคอกลมลายขวาง ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.แหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย ชาว ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการพิสูจน์พลิกศพเบื้องต้นกว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นนำร่างของผู้เสียชีวิตทั้งสองไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติเวช ศูนย์ รพ.ราชบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเคยอยู่กันฉันสามีภรรยามาก่อนและมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นหญิง อายุประมาณ 4 ขวบ คนเล็กเป็นชาย อายุประมาณ 2 ขวบ แต่ทั้งสองได้เลิกรากันไป ต่อมา น.ส.ฐิติมา หรือแหม่ม มาเช่าห้องเปิดร้านเสริมสวย ประเภทแต่งเล็บทำผม ได้ประมาณเกือบ 2 เดือนแล้ว

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ประชา นาคราช รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยกระเจา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าทั้งสองเป็นอดีตสามีภรรยากันแต่ได้เลิกรากันไปแล้ว ส่วนแรงจูงใจคาดว่าอาจจะเกิดจากความหึงหวง หรือฝ่ายชายกลับมาของ้อคืนดีแต่ถูกฝ่ายหญิงปฏิเสธ ทำให้ฝ่ายชายเกิดความโมโหจึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น แต่อย่างไรก็ตามขอให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะสามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงของการก่อเหตุสลดในครั้งนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image