แม่ค้าสุดโมโห คนร้ายขโมยราวแขวนเสื้อผ้าเกลี้ยงร้าน ตามจับได้ใช้ฮูลาฮูปตีไปหลายครั้ง จนรับสารภาพเอาไปขายที่ไหน
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 กันยายน ที่ร้านค้าริมถนนบางไผ่-หนองเพรางาย หมู่ 8 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายสุทัศน์ วงค์มุข อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้มีคนรู้จักส่งรูปมาให้ บอกว่ามีคนร้ายเข้าไปขโมยของที่ร้านของพี่ภรรยาคือ นางลัดดาวัล เลิศทิพย์สกุล อายุ 56 ปี ที่ขายทุเรียนและเสื้อผ้ามือสองอยู่ใกล้ๆ กันกับร้านของตน จึงรีบออกมาดูแต่ไม่พบคนร้ายแล้ว เขาบอกว่าคนร้ายขี่รถไปด้านวัดเต็มรัก จึงรีบขับรถตามไป เจอคนร้ายอยู่เลยวัดเต็มรักไปนิดหน่อย และเห็นลังของร้าน 4 ใบ คนร้ายมากัน 2 คน มีคนนั่งซ้อนท้าย จึงถามคนร้ายว่าลังนี้เอามาจากไหน ผมบอกว่าลังนี้เป็นของผม แบบนี้ขโมย คนร้ายบอกว่าลังพี่เหรอ มันก็โยนทิ้ง
นายสุทัศน์กล่าวว่า จากนั้นคนร้ายก็ขี่รถย้อนศร ผมจึงขี่รถตามอีกประมาณกิโลครึ่ง แล้วคนร้ายก็ขี่รถจักรยานยนต์คว่ำล้มเอง คนซ้อนท้ายบาดเจ็บ คนขับก็บาดเจ็บ แต่คนขับคว้ารถแล้วขี่รถหนีไปอีกด้านหมู่บ้านมนวดี ผมจึงขี่รถตามไป คนร้ายถามว่าพี่ตามผมทำไม ผมก็บอกว่าก็มึงเป็นคนร้าย ไม่ตามได้ยังไง ไปขโมยของเขามา แล้วมันก็ขี่รถหนีไปอีก แต่ไม่ได้ตามแล้วเพราะจะทิ้งคนร้ายอีกคนที่เจ็บอยู่ไม่ได้ จึงรีบล็อกตัวคนร้ายที่เจ็บไว้ก่อน
นายสุทัศน์กล่าวอีกว่า จากนั้นพี่ภรรยาก็มาพอดีจึงช่วยกันคุมตัวไว้แล้วโทรแจ้งตำรวจว่าจับโจรที่ขโมยของที่ร้านไว้ได้ จากนั้นตำรวจก็ควบคุมตัวไปที่โรงพัก ทราบชื่อ นายคมกริช โพธินี อายุ 45 ปี ตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์
นางลัดดาวัล เลิศทิพย์สกุล อายุ 56 ปี เจ้าของร้านขายทุเรียนและเสื้อผ้ามือสอง กล่าวว่า ถูกคนร้ายมาขโมยราวแขวนเสื้อผ้าไป 5 ครั้ง รวมแล้วคนร้ายได้ราวแบบสูง 15 อัน ราวเตี้ย 10 อัน เอาไปจนหมดร้าน น้องชายบอกว่าจับคนร้ายได้แล้วจึงรีบมา เมื่อเห็นคนร้ายก็โมโหอารมณ์ขึ้น จึงใช้ห่วงฮูลาฮูปตีคนร้ายไปหลายครั้งจนคนร้ายรับสารภาพว่าเอาไปขายที่ไหนบ้าง จึงตามไปดูที่ร้านขายของเก่า แต่ของไม่อยู่แล้ว เจอแต่เหล็กชุดล่าสุดที่คนร้ายขโมยไป
นางลัดดาวัลกล่าวว่า ตอนนี้มีเสื้อผ้า แต่ไม่มีราวแขวนผ้า ค่าเสียหายรวมแล้วหมื่นกว่าบาท ขโมยไปแบบเกลี้ยงร้าน ไม่เหลือให้เราเลย ตำรวจมารับตัวไปแล้วให้เขาอยู่ในคุกดีกว่า เพราะอยู่ข้างนอกก็เที่ยวขโมยของคนโน้นคนนี้
นางธัญญาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี คนคัดแยกถ่านขาย กล่าวว่า ที่ร้านคัดแยกถ่านขายใส่ถุงย่อยถุงละ 1.5 กิโลรัม หรือตามที่ลูกค้าสั่ง ถ่านหายไป 3 ครั้ง ครั้งแรก 70 ถุง ขายถุงละ 20 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 7 กระสอบ กระสอบละ 200 บาท และครั้งที่ 3 เมื่อคืนวันที่ 20 กันยายน ถูกขโมยไปอีก 3 กระสอบ ซึ่งคนที่ถูกจับไปไม่ยอมรับสารภาพ ไปซัดทอดเพื่อนอีกคนที่หนีไปได้ ยังกลัวอยู่ว่าคืนนี้ถ่านจะหายอีกหรือไม่เพราะคนร้ายรู้ว่าเก็บของไว้ แถวนี้ของหายบ่อยมาก แต่ไม่ค่อยมีใครไปแจ้งความ แต่ที่ร้านไปแจ้งความไว้
นางธัญญาพรกล่าวว่า อยากฝากถึงคนร้ายเห็นใจคนทำงานด้วย ได้แค่ 5 บาท 10 บาท ถ่านมีกำไรน้อยแถมต้องมาถูกขโมยหายไปอีก ได้กำไรนิดเดียว เราก็คนลำบากเหมือนกัน
