ผู้ว่าฯ นนท์ ลุยแยกแคราย ตรวจน้ำท่วม พบแผ่นปูน-เศษคอนกรีตในบ่อพักจำนวนมาก สั่งเร่งแก้ไขทันที
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 26 กันยายน นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยผู้แทนจากแขวงทางหลวงนนทบุรี ผู้แทนจากการไฟฟ้านครหลวงเขตนนทบุรี ผู้แทนจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู รวมทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้า และผู้แทนจากเทศบาลนครนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณแยกแคราย อ.เมืองนนทบุรี ตั้งแต่หน้า SBAC ถนนรัตนาธิเบศร์ ไปจนถึงบริเวณถนนติวานนท์ หลังจากเกิดฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 05.00 น. ทำให้น้ำท่วมบริเวณแยกแคราย ในช่องทางด้านซ้ายสูง 10-15 เซนติเมตร
จากการตรวจสอบพบว่า มีเศษอิฐและแผ่นคอนกรีตหล่นลงไปอยู่ในบ่อพักน้ำเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำไม่สามารถผ่านท่อลอดแยกแครายไปลงคลองบางซื่อน้อยได้สะดวก ทำให้น้ำไหลไปทางด้านคลองขุดได้ทางเดียว นายสุจินต์จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเร่งแก้ไขปัญหาด้วยการลอกท่อและบ่อพักบริเวณดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน
นางสาวอโรชากล่าวว่า จากฝนตกหนักเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทำให้บริเวณแยกแครายมีปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งตรงนี้เป็นจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังจุดหนึ่งใน 26 จุดของจังหวัดนนทบุรี ซึ่งจังหวัดนนทบุรีได้มีการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงต่างๆ มาโดยตลอด ประกอบกับตอนนี้มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ รวมทั้งก่อสร้างสถานีตรงจุดนี้ด้วย ทางจังหวัดได้มีการตรวจสอบและติดตามการก่อสร้างมาเป็นระยะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนนทบุรี แขวงทางหลวงนนทบุรี ร่วมกับบริษัทซิโนไทยผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้ลงไปดูพื้นที่ได้ไปเจอพบว่ามีแผ่นคอนกรีตและเศษคอนกรีตเข้าไปอุดตันอยู่ในท่อระบายน้ำและบ่อพักน้ำ จึงเป็นปัญหาในการระบายน้ำพอสมควร เมื่อเช้าที่ลงไปก็มีการบูรณาการร่วมกันสูบน้ำออก ทั้งจากเทศบาลนครนนทบุรีและแขวงทางหลวงนนทบุรี รวมทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็มีเครื่องสูบน้ำประจำอยู่ตรงจุดนั้นเร่งช่วยกันสูบ ก็ทำให้น้ำที่ท่วมผิวการจราจรได้รับผลกระทบน้อยลงน้ำท่วมเป็นเวลาสั้นลง
“จังหวัดนนทบุรี โดยนายสุจินต์ ตั้งเป้าไว้ว่าหากฝนตกไม่เกิน 120 ml. จะสามารถระบายน้ำแห้งได้ภายในเวลา 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะตรงแยกแคราย ผู้ว่าฯได้สั่งให้บูรณาการครั้งใหญ่ว่าตรงจุดไหนเป็นของหน่วยงานไหนรับผิดชอบ และใครเป็นผู้ทำให้เศษปูนลงไปปิดกั้นการระบายน้ำให้เร่งแก้ไขเป็นการด่วน และในช่วงบ่ายวันนี้จะลงพื้นที่อีกครั้งเพื่อใช้เครื่องเจาะลงไปดูว่าข้างล่างใต้ดินเป็นอย่างไร อะไรไปขวางทางระบายน้ำบ้าง จะได้แก้ไขให้ถูกจุด เพื่อรองรับพายุโนรูที่จะเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันพุธ ซึ่งนนทบุรีอาจจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในพื้นที่” นางสาวอโรชากล่าว
