ป้าจี้เปิดชื่อครู หลัง ‘แม่ น.ร.ชาย’ บุกหอ หลุดปาก บอกครูช่วยเจรจา เรียก 1.4 แสน

เด็กสาวถูกละเมิดทางเพศในโรงเรียนให้ปากคำพนักงานสอบสวนและสหวิชาชีพ โป๊ะแตก! แม่เด็กชายโฟนอินเคลียร์ใจ อ้างครูช่วยเจรจาเรียก 1.4 แสน ป้าเด็กสาวเดือดยันไม่เคยพูด ให้ช่วยเปิดชื่อครูรายนี้

กรณีนักเรียนหญิงอายุ 17 ปี นักเรียนประจำอยู่ภายในโรงเรียนประเภทอยู่ประจำกินนอนแบบสหศึกษาแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ถูกนักเรียนผู้ชายอายุ 15 ปี ก่อเหตุปีนขึ้นมาที่หอกักตัวเด็กหญิงที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แล้วข่มขืนต่อหน้าเพื่อนนักเรียนหญิง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 กันยายน ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ แม่และป้า พร้อมเด็กนักเรียนสาวที่ถูกเด็กนักเรียนชายล่วงละเมิดทางเพศในห้องกักตัวโควิด โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ โดยการนำของเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้รุดเข้าให้ปากคำต่อทีมพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์พร้อมทางสหวิชาชีพ ทั้งนี้ทางทีมสอบสวนเชิญเด็กสาวและผู้ปกครองเข้าห้องสอบสวน พร้อมปิดห้องเงียบเพื่อสอบปากคำผู้เสียหายดังกล่าว

Advertisement

ข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตามระหว่างรอการสอบปากคำจากทีมพนักงานสอบสวนและทางสหวิชาชีพ ทางทีมข่าวทีวีช่องหนึ่งได้ต่อโทรศัพท์หาแม่เด็กนักเรียนชายที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้ก่อเหตุ โดยให้พูดคุยสนทนากับทางป้าของเด็กสาว โดยมีการเปิดโฟนอินให้ฟังกันโดยตลอด เนื่องจากทั้งคู่ทางคณะครูของโรงเรียน ไม่เคยให้เจอหรือให้พูดคุยกัน

ทางทีมข่าวแจ้งทางแม่ฝ่ายชายว่า อยากขอโทษหรือพูดคุยกับครอบครัวเด็กสาวหรือไม่?

ซึ่งทางแม่ฝ่ายชายจึงแจ้งว่า ก็อยากจะพูดเพราะไม่เคยได้คุยกัน อยากจะรับผิดชอบ แต่เด็กไม่ได้ข่มขืน ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนคดีคงไม่ยอมเนื่องจากน้องถูกกล่าวหาข่มขืนแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่จึงไม่ยอม และเหมือนเป็นการสมยอม เพราะอยู่ในห้องขนาดนั้น นอนกันตั้งหลายคน และฟูกก็ปูติดกัน ถ้าเด็กโดนข่มขืนก็ต้องร้อง แต่เด็กไม่พูดไม่เอออะไรอย่างนี้ ถ้าพูดสักคำเด็กข้างๆ ก็ต้องลุกขึ้นมาเปิดไฟแล้ว และครูก็ยังไม่หลับด้วย

Advertisement

“ตอนที่ไปก็คุยกับคุณครูทั้งหมด ทางโรงเรียนเขาบอกว่าทางญาติฝ่ายผู้หญิงขึ้นไปก่อน โดยฝ่ายผู้หญิงบอกว่า ไม่ยอมจะเรียกค่าเสียหาย 1.4 แสนบาท หลังจากครูบอกให้ฝ่ายหญิงออกมา และหนูก็เดินเข้าไปเลยบอกว่า คุณครูหนูจะเอาเงินที่ไหนมา หนูทำงานคนเดียว และโรงเรียนนี้ไม่เสียค่าเทอมและไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นเรียนก็ฟรี” แม่เด็กนักเรียนชายที่ถูกกล่าวหากล่าว

ซึ่งทางป้าเด็กสาวจึงสอบถามกลับโดยทันทีว่า “คุณครูคนไหนเป็นคนพูด ในวันนั้นป้าไม่มีโอกาสได้เจอแม่ของน้อง และไม่มีโอกาสได้คุยกันใช่ไหม ยืนยันไม่เคยคุยเรื่องค่าเสียหายอะไรเลย และคุณครูคนไหนอยากรู้ชื่อ” โดยแม่ฝ่ายชายโต้ตอบว่า “ไม่รู้พูดหรือไม่พูดแต่คุณครูบอกแบบนี้ และไม่รู้จักชื่อครู”

ในขณะที่ป้าเด็กสาวตอบกลับไปทันทีว่า “รบกวนสอบถามว่าคุณครูคนไหนช่วยเอ่ยชื่อได้ไหม พี่ (ป้าเด็กสาว) จะจัดการคุณครูคนนั้น พี่ไม่ได้พูด ไม่เคยมีโอกาสคุยกัน ช่วยชี้หน้าได้ไหม เพราะกำลังทำให้เราทะเลาะกันเอง พี่ยืนยันไม่ได้คุยเรื่องค่าเสียหาย”

ในขณะที่แม่ฝ่ายชายขอเคลียร์ประเด็นนี้ให้จบก่อน โดยบอกว่า “พอเข้าไปก็บอกครูว่าหนูไม่มีหรอกค่ะคุณครู ช่วยพูดให้หน่อย หนูเลี้ยงลูกคนเดียวจะเอาเงินที่ไหนมาตั้งเป็นแสน คุณครูเลยบอกว่าโอเคงั้นเดี๋ยวไปเคลียร์กับผู้ปกครองก่อน และพอไปเคลียร์เสร็จเขาก็มาบอกให้กลับบ้านได้ คิดว่าคุณครูเคลียร์ให้จบแล้ว”

โดยป้าของเด็กสาวแจ้งว่า “วันนั้นคุณครูแจ้งแต่เรื่องอื่น ก็เลยถามครูว่ามีบทลงโทษอะไรกับน้องกรณีทำแบบนี้ คุณครูบอกว่าไล่ออก จากนั้นจึงกลับบ้านเลย พี่ยืนยันเลยว่าไม่ได้คุยเรื่องค่าเสียตัวอะไรทั้งนั้น พี่เป็นแค่ป้าไม่ใช่แม่ของน้องและไม่ได้นำแม่น้องไป พี่ไม่มีสิทธิ์เรียกอะไรแบบนี้อยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องไปเอาความจริงที่ครูพูดมาได้ยังไง”

ป้าเด็กสาวยังกล่าวอีกว่า หากโรงเรียน ให้เราได้มีโอกาสได้คุยกันสักนิด จะขอแค่ถามน้องว่า หนูทำเพราะอะไร และสาเหตุที่ไปถึงมูลนิธิปวีณาเพราะต้องการดำเนินเรื่องกับทางโรงเรียนโดยส่วนหนึ่งด้วย เพราะฝั่งผู้ชายก็ผ่านไปแต่ฝ่ายผู้หญิงที่ถูกกระทำไปหาหมอไม่ได้ ไปทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่มีขบวนการพวกนี้ขึ้นมา จำเป็นต้องทำแบบนี้ จะไปตรวจร่างกายต้องดำเนินคดีไหม หากไม่ตรวจร่างกายทางโรงพยาบาลจะดำเนินการให้เราหรือไม่

โดยแม่ฝ่ายชายตอบว่า อนาคตเด็กก็ไกลแต่ตอนนี้เหมือนตัดอนาคตเด็กทางฝ่ายชายแล้ว จนทำให้ป้าเด็กสาวแสดงอาการไม่พอใจพร้อมตอบสวนไปว่า

“หากน้องอยากจะได้อนาคตไกลๆ คงไม่ไปหอหญิงในวันนั้นหรอก” หลังจากนั้นทางป้าเด็กสาวจึงยุติการสนทนาโดยทันที

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image