ชาวบ้านเกิ้งพัฒนา กรอกทรายบล็อกทางน้ำให้มีทางสัญจร ขณะครูต้องพายเรือเข้าโรงเรียนไปทำงาน

ชาวบ้านเกิ้งพัฒนา กรอกทรายบล็อกทางน้ำให้มีทางสัญจร ขณะครูต้องพายเรือเข้าโรงเรียนไปทำงาน

วันนี้ (30 กันยายน 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเกิ้งพัฒนา หมู่ 13 ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ชาวบ้านต่างช่วยกันเร่งกรอกกระสอบทราย เพื่อนำไปบล็อกพื้นที่เส้นทางในหมู่บ้าน เพื่อไม่ให้น้ำจากแม่น้ำชีที่เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมเส้นทางในหลายหมู่บ้านในตำบลเกิ้ง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ และตำบลใกล้เคียง สามารถใช้เส้นทางหมู่บ้านสัญจรได้ตามปกติ

นายสมัย จักรทุม ผู้ใหญ่บ้านบ้านเกิ้งพัฒนา หมู่ 13 ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ได้ร่วมกับชาวบ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านกรอกกระสอบทรายเพื่อนำไปปิดกั้นทางน้ำ บริเวณเส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้าน เพื่อไม่ให้น้ำจากแม่น้ำชีที่เอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมถนนตรวจซอกซอยต่าง ๆ ในหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลเกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม และประชาชนจากตำบลมะค่า ตำบลกุดไส้จ่อ อ.กันทรวิชัย ใช้เส้นทางสัญจรเพื่อไปทำงาน และกลับบ้านได้ ในช่วงที่น้ำชีเอ่อท่วมพื้นที่ โดยจะได้นำแนวกั้นที่ระดับความสูงประมาณ 1 เมตร เพื่อเตรียมรับน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งขณะนี้หลายหมู่บ้านในเขตพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากประมาณน้ำในแม่น้ำชีที่เพิ่มสูงขึ้น จากฝนที่ตกต่อเนื่องในพื้นที่ อิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำ และพายุโนรู ประกอบกับน้ำเหนือที่มาจากชัยภูมิ และทางเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มีการปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได ซึ่งพื้นที่ตำบลเกิ้งหลายหมู่บ้านอยู่นอกพนังกั้นน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมในหมู่บ้าน

ขณะที่โรงเรียนเกิ้งวิทยานุกูล ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งโรงเรียนตั้งอยู่นอกพนังกั้นน้ำ น้ำจากแม่น้ำชีได้เอ่อเข้าท่วมพื้นที่ภายในโรงเรียนทั้งหมด จนมาถึงด้านหน้าของโรงเรียน แต่ถือว่ายังโชคดีที่นักเรียนสอบกลางภาคไปหมดแล้ว

Advertisement

โดยคุณครูเดือนนภา เหง้าโคกงาม ครูโรงเรียนเกิ้งวิทยานุกูล เปิดเผยว่า ปีนี้น้ำมาเร็วมากว่าทุกปี โดยน้ำชีได้เอ่อล้นตลิ่งมาตั้งแต่วันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา โดยปีนี้น้ำขึ้นทีละนิด ทำให้น้ำค่อยๆ เข้าท่วมพื้นที่โรงเรียน แต่พอพายุโนรูเข้ามา ก็ส่งผลให้ระดับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังโชคดีที่นักเรียนสอบกลางภาคเสร็จไปแล้วเมื่อวานนี้ แต่ครูและบุคลากรของโรงเรียนยังคงต้องมาทำงานอยู่ ทำให้ต้องจอดรถไว้ที่ริมถนนอีกฝั่งของโรงเรียน และต้องพายเรือเข้าไปทำงาน ซึ่งยังมีอาคารที่น้ำยังท่วมไม่ถึง ส่วนข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ ก็เก็บไว้ในที่สูงเอาไว้แล้ว จึงไม่มีทรัพย์สินเสียหาย ส่วนการสำรวจความเสียหายด้านอื่น ๆ ก็ต้องรอน้ำลดเข้าสู่สภาวะปกติ ก็จะได้สำรวจความเสียอีกครั้งและแจ้งไปยังต้นสังกัดให้ทราบ

ด้าน ร.ต.อ.ตนุพล พันธ์สวัสดิ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ถึงแม้ว่าพายุโนรูจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่วันนี้ท้องฟ้าในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามยังคงมืดครึ้ม และยังคงมีฝนตกโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแรงและเบาสลับกัน โดยปริมาณฝนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีปริมาณน้ำฝนสะสม 1,329 มิลลิเมตร มากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 20 ปี 23%

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำชีวันนี้วัดที่เขื่อนมหาสารคาม ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 7 เซนติเมตร ระดับน้ำหน้าเขื่อนและท้ายเขื่อนอยู่ที่ 150.59 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บานรวม 63 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อน 1,155.70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือคิดเป็น 99.85 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีปริมาณน้ำในลำน้ำเหนือเขื่อน 42.950 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 178.96 เปอร์เซ็นต์ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งแล้ว 1.09 เมตร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับน้ำสูงสุดในปี 64 อยู่ที่ 61 เซนติเมตร

Advertisement

โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม ได้เตรียมพร้อมช่วยเหลือราษฏรที่ประสบอุทกภัย พร้อมจัดหาเรือท้องแบนและเครื่องยนต์ เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมให้สามารถสัญจรเข้าออกได้ ตลอดจนติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักเครื่องจักรกล และเตรียมรถยกสูงเพื่อลำเลียงประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งหากมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น จะพิจารณาใช้แผนสำรองในกานใช้เรือรับส่งประชาชน อย่างไรก็ตามยังคงต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำชีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่พ้นวิกฤต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image