ตำรวจมั่นใจหลักฐานชัด พ่อทาสยาบ้าข่มขืนลูก โทษสูงสุดประหารชีวิต
นครพนม ตำรวจมั่นใจพยานหลักฐานเพียงพอเอาผิดพ่อทาสยาบ้าข่มขืนลูก ผู้ต้องหารับสารภาพ โทษหนักสูงสุดจำคุก 50 ปี ถึงประหารชีวิต ส่วนแม่ต้องคดีจำหน่ายยาบ้า โทษสูงสุดถึง 15 ปี ยุติธรรมจังหวัด ร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตั้งกองทุนช่วยเหลือ เปิดรับบริจาคผู้ใจบุญ เล็งสร้างบ้านหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ทรุดโทรม พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้น้อง และครอบครัว ดูแลทุนการศึกษาเด็ก 2 เดือน และน้องสาวที่ยังเรียน ล่าสุดผู้ใจบุญแห่ให้การช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบให้การช่วยเหลือ น้องตุ้ม อายุ 16 ปี เหยื่อพ่อเลี้ยงหื่น ถูกบังคับข่มขืนใจ มาตั้งแต่อายุ ประมาณ 8 ขวบ จนกระทั่งปัจจุบัน อายุ 16 ปี จนตั้งครรภ์คลอดลูกสาวได้ ประมาณ 2 เดือน
แต่สภาพความเป็นอยู่ ทางน้องตุ้ม อายุ 16 ปี ยังต้องอาศัยอยู่ลำพัง ในสภาพบ้านไม้ยกสูงหลังเก่า ทรุดโทรม ใช้เพียงสังกะสี และไม้เก่าผุพังเป็นผนังบ้าน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีระบบน้ำประปา อีกทั้งต้องดูแลน้องสาวอีก 1 คน คือ น้องตุ้ย อายุ 13 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จากพี่น้องทั้งหมด 3 คน ส่วนคนโตเป็นหญิงอายุ 27 ปี มีครอบครัว ทำงานรับจ้าง
ทั้งนี้ ทางหน่วยงานยุติธรรมจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย อบต.นาขมิ้น และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ได้ตั้งกองทุนรับบริจาคให้การช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิต ร่วมกับหน่วยงานภครัฐ ต้องการนำงบประมาณมาสนับสนุน สร้างบ้านพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยตั้งกองทุน เปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือ กับผู้ใจบุญสามารถสอบถามรายละเอียด และบริจาคช่วยเหลือได้ที่ บัญชี ธนาคารออมสิน สาขาโพนสวรรค์ เลขที่บัญชี 020-3995-3237-1 ชื่อบัญชีบริจาค กองทุนเพื่อช่วยเหลือน้องตุ้ม ตำบลนาขมิ้น สอบถามได้ที่โทร. 063-531-9726 นางศิวาพร เสนจันทร์ฒิชัยไชย ผู้ใหญ่บ้านขามเตี้ยใหญ่
ขณะเดียวกันทางด้าน พ.ต.ท.ธราพงษ์ ภูมิถินเหว่อ สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดี ที่มีการดำเนินคดีกับพ่อของเด็ก เมื่อเดือน กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา นำทีมสอบสวนดำเนินคดี เอาผิดกับพ่อเลี้ยง อายุ 51 ปี ชาวจ.นครพนม ในข้อหาหนัก รวม 3 ข้อหา ทั้งฐานความผิดเสพยาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า รวมถึง ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม ส่วนโทษสูงสุดจำคุกถึง 50 ปี หรือถึงขั้นประหารชีวิต
นอกจากนี้ยังดำเนินคดี กับแม่ คือ นางสุพันนี พันสิติ อายุ 47 ปี ในข้อหาเสพยาบ้า และมียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครังเพื่อจำหน่าย ทั้ง 2 สามีภรรยา อยู่ระหว่างส่งฝากขังที่เรือนจำกลางนครพนม รอการพิจารณาตัดสินของศาลจังหวัดนครพนม
