รองผู้ว่าฯเพชรบูรณ์แจงน้ำท่วม 4 อำเภอตอนล่าง เหตุ 2 อ่างเก็บน้ำเร่งระบายน้ำ ส่วน อ.หล่มสักไม่รอด ท่วมรอบ 5

รองผู้ว่าฯเพชรบูรณ์แจงน้ำท่วม 4 อำเภอตอนล่าง เหตุ 2 อ่างเก็บน้ำเร่งระบายน้ำ ส่วน อ.หล่มสักไม่รอด ท่วมรอบ 5

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โซนใต้ อาทิ อ.หนองไผ่, อ.บึงสามพัน, อ.วิเชียรบุรี และ อ.ศรีเทพ เป็นน้ำที่ฝนตกสะสมและตกค้างทางด้านฝั่งทิศตะวันตก ทำให้น้ำไหลข้ามถนนหมายเลข 21 ซึ่งมีอิทธิพลมาจากร่องความกดอากาศกำลังแรง ไม่ใช่จากพายุโนรู นอกจากนี้การที่อ่างเก็บน้ำได้แก่ อ่างคลองลำกง ที่ อ.หนองไผ่ และอ่างเก็บน้ำห้วยเล็ง อ.วิเชียรบุรี เนื่องจากมีน้ำไหลเข้าอ่างเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำล้นสปิลเวย์ประกอบกับมีการเร่งระบาย เพื่อรักษาโครงสร้างเขื่อน จึงทำให้มีผลกระทบเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งคาดการณ์ว่าวันนี้ระดับน้ำท่วมจะลดลง โดยน้ำที่ท่วมจะถูกระบายลงสู่แม่น้ำป่าสัก ซึ่งปัจจุบันยังสามารถรองรับการระบายได้

“พื้นที่ อ.หนองไผ่กับ อ.วิเชียรบุรี ซึ่งช่วงนี้ยังมีเอฟเฟ็กต์ผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมอยู่ นั้น เพราะอ่างคลองลำกงกับอ่างห้วยเล็ง มีน้ำถูกปล่อยลงมาเยอะ โดยแค่เพียงวันเดียวอ่างคลองลำกงมีน้ำไหลเข้าอ่างกว่า 14 ล้าน ลบ.ม. ส่วนอ่างห้วยเล็งน้ำไหลเข้าอ่างราว 4-5 ล้าน ลบ.ม. นอกจากน้ำล้นออกทางช่องระบายฉุกเฉินแล้ว ยังถูกเร่งระบายทางประตูน้ำ แต่วันนี้เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน จึงให้เหลือแค่น้ำล้นออกทางสปิลเวย์เท่านั้น โดยการบริหารจัดการน้ำ ณ เวลานี้ ทางชลประทานเพชรบูรณ์พยายามจะลดผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำให้มากที่สุด ซึ่งในภาพรวมถือว่า จ.เพชรบูรณ์ควบคุมสถานการณ์ได้อยู่” นายชัชวาลย์กล่าว

Advertisement

รองผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ได้แก่ อ.หล่มเก่าและ อ.หล่มสัก เนื่องจากรับมวลน้ำมาจากพื้นที่ต้นน้ำและมีฝนตกสะสมในพื้นที่ รวมทั้งอ่างห้วยขอนแก่นน้ำล้นสปิลเวย์ทำให้ต้องมีการระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำในแม่ป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสักสูงกว่าตลิ่งและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำ ซึ่งพื้นที่น้ำท่วมก็ยังคงเป็นพื้นที่เดิมที่เคยถูกน้ำท่วม และปัจจุบันทางอ่างห้วยขอนแก่นก็ชะลอการระบายทางช่องทางปกติ เหลือแค่น้ำล้นออกทางสปิลเวย์ เพื่อลดผลกระทบภาวะน้ำท่วม ปัจจุบันได้รับรายงานว่าระดับน้ำแม่น้ำป่าสักที่ตาดกลอยลดลงแล้ว โดยมวลน้ำก้อนนี้ก็คงมาพอกที่ อ.หล่มสัก

นายชาครินทร์ อินอิ่มวรปราชญ์ นายอำเภอหล่มสัก กล่าวว่า น้ำคงท่วมในพื้นที่เดิม คาดว่าในวันนี้ระดับน้ำท่วมคงพีคสูงสุด แต่สภาพแม่น้ำป่าสักเวลานี้มีน้ำเต็ม แม้จะใช้เครื่องผลักดันน้ำ แต่น้ำก็เคลื่อนตัวได้ช้า จึงว่าคงใช้เวลาราว 30 กว่าชั่วโมงน้ำก็คงลดลง แต่สิ่งที่ต้องเน้นในเวลานี้คือการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนให้มากที่สุด ส่วนการระบายน้ำอ่างห้วยขอนแก่นก่อนนี้ ก็มีผลกระทบกับพื้นที่ท้ายอ่างบ้าง แต่พยายามกระทบให้น้อยที่สุด เพราะต้องคำนึงสภาพอ่างหากมีน้ำเยอะก็ต้องปล่อย หากไม่ปล่อยโครงสร้างเขื่อนอาจเสียหายได้

“อย่างไรก็ตามจากภาวะน้ำท่วมมา 4 รอบแล้วและรอบนี้เป็นรอบที่ 5 ของปีนี้ ทำให้ประชาชนมีความตื่นตัวและมีประสบการณ์ในการตั้งรับสถานการณ์น้ำท่วมค่อนข้างดี ประกอบกับมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ขณะเดียวกันทางอำเภอและท้องถิ่นรวมทั้งอาสากู้ภัยภาคเอกชน เตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์เต็มที่ จึงคาดว่าผลกระทบน้ำท่วมในรอบนี้ อาจจะมีบ้างแต่ก็คงน้อย” นายชาครินทร์กล่าว

Advertisement

ข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ที่ อ.หล่มสัก แม่น้ำป่าสัก ยังคงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและเส้นทางจราจร โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาระดับเริ่มทรงตัว โดยพื้นที่ถูกน้ำท่วมหนักได้แก่ ต.ตาลเดี่ยว น้ำท่วมถนนศรีสะอาด-บ้านใหม่ และบริเวณสี่แยกร่องไผ่ ถนนหล่มสัก-บ้านติ้ว ส่วนเทศบาลเมืองหล่มสัก น้ำเข้าท่วมชุมชนริมแม่น้ำป่าสัก อาทิ ชุมชนวัดทุ่งจันทร์สมุทร, ชุมชนท่ากกโพธิ์, ชุมชนบ้านไร่ ฯลฯ โดยเทศบาลฯมีการวางแนวสกัดกั้นน้ำเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบระบายน้ำจากท่อระบายน้ำออกจากพื้นที่

นอกจากนี้ทางจังหวัดเพชรบูรณ์มีรายงานสรุปถึงสถานการณ์อุทกภัย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองไผ่ อ.วิเชียรบุรี อ.ชนแดน อ.บึงสามพัน โดยที่ อ.หนองไผ่ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 8 ตำบล โดยเช้าวันที่ 30 กันยายนมีฝนตกน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง อ่างคลองลำกงน้ำล้นสปิลเวย์ท่วมบ้านเรือนราษฎร คาดได้รับผลกระทบราว 50 หลัง พื้นที่เกษตร 50 ไร่ ถนน 1 สาย ระดับน้ำล่าสุดลดลงต่อเนื่อง

อ.วิเชียรบุรี พื้นที่ 4 ตำบลได้รับผลกระทบ โดยคืนวันที่ 29 กันยายน เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงอ่างเก็บน้ำห้วยเล็งทำให้น้ำล้นคันอ่าง ไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรคาดได้รับผลกระทบราว 30 หลัง พื้นที่การเกษตร 30 ไร่ ถนนเสียหาย 2 สาย มีการอพยพราษฎรไปที่วัดวังผา หมู่ 11 ต.โคกปรง ล่าสุดระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง

ส่วน อ.ชนแดน มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 1 ตำบลกับ 2 เทศบาล ได้แก่ ต.ชนแดนและเทศบาล ต.ชนแดน, เทศบาล ต.ดงขุย โดยเย็นวันที่ 30 กันยายนมีฝนตกหนักทำให้น้ำจากคลองบุษบงล้นตลิ่งเข้าท่วม ต.ชนแดน ล่าสุดระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง

อ.บึงสามพัน มีพื้นที่ 2 ตำบล ได้แก่ ต.หนองแจงและ ต.กันจุได้รับผลกระทบ โดยเช้าวันที่ 1 ตุลาคม น้ำจากแม่น้ำป่าสักล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 2 ตำบลดังกล่าว โดยคาดการณ์มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 78 หลัง มีการเคลื่อนย้ายเด็กและผู้สูงอายุ ไปพักอาศัยที่ อบต.หนองแจง พร้อมจัดถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย

ข่าวแจ้งว่า ชลประทานเพชรบูรณ์มีการแจ้งรายงานสถานการณ์อ่างเก็บกักน้ำทั้ง 11 แห่งของ จ.เพชรบูรณ์ ปรากฏว่ามีอ่างเก็บน้ำถึง 7 แห่งมีปริมาณเก็บกักเกิน 100 เปอร์เซ็นของปริมาณเก็บกัก จนทำให้มีน้ำล้นออกสปิลเวย์ (ช่องระบายน้ำฉุกเฉิน) ได้แก่ อ.หล่มสัก อ่างห้วยขอนแก่น ร้อยละ 105.54, อ่างห้วยน้ำก้อร้อยละ 101.66, อ.เมืองเพชรบูรณ์ อ่างห้วยป่าแดง ร้อยละ 108.48, อ่างคลองเฉลียงลับ ร้อยละ 100.47, อ่างห้วยป่าเลา ร้อยละ 102.95, อ่างห้วยนา ร้อยละ 102.25, อ.หนองไผ่ อ่างคลองลำกง ร้อยละ 101.68

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image