เขื่อนเจ้าพระยาขึ้นเตือนธงเหลือง ท้ายเขื่อนอ่วมหนัก ชาวบ้านแห่นอนริมถนน

เขื่อนเจ้าพระยาขึ้นเตือนธงเหลือง ท้ายเขื่อนอ่วมหนัก ชาวบ้านแห่นอนริมถนน

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลาง พบว่าน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนประเทศ วัดได้อัตรา 2,730 ลบ.ม./วิ โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุดวัดได้ +17.19 เมตร

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้เพิ่มอัตราการระบายน้ำขึ้นไปที่ 2,606 ลบ.ม./วิ เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน และเพื่อเร่งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำเหนือเขื่อน รองรับมวลน้ำเหนือ ที่จะมีมากขึ้นหลังจากนี้ ซึ่งจากที่คงการระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมาวัดได้ +16.14 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่เขื่อนเจ้าพระยามีการปรับระดับการแจ้งเตือนจากธงเขียว ในสถานการณ์ปกติ ขึ้นเป็นธงเหลือง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวัง

ซึ่งจากระดับน้ำที่ยกตัวขึ้น ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ 6 ตำบลของ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมรวมแล้วกว่า 2,000 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 60-150 ซม. ทำให้มีชาวบ้านจำนวนมากนับพันครอบครัว ที่ต้องออกมาสร้างเพิงพักบนถนนคันคลองมหาราช และถนนสายต่างๆ เพื่อใช้เป็นที่หลับนอนชั่วคราวแล้วนับพันครอบครัว และมีมากขึ้นเรื่อยๆ จากความไม่วางใจในสถานการณ์น้ำที่มีแนวโน้มจะท่วมสูงขึ้นจากการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา

Advertisement

ชาวบ้านที่อพยพขึ้นมานอนอยู่ริมถนนคันคลองมหาราชเปิดเผยกับทีมข่าวของเราว่า ตอนนี้ความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก ทั้งเรื่องของน้ำดื่ม น้ำใช้ การหุงหาอาหาร ห้องน้ำห้องท่า และปัญหายุงแมลงรบกวน โดยสิ่งที่ชาวบ้านต้องการอย่างเร่งด่วนในระยะนี้ก็คือ น้ำดื่มที่ตอนนี้มีไม่ค่อยเพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงยาทากันยุง หรือยาจุดกันยุง ที่ชาวบ้านต้องการมากเช่นกัน ซึ่งหากมีหน่วยงานองค์กรที่ต้องการนำสิ่งของไปแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน นอกจากข้าวสารอาหารแห้งแล้ว ก็อยากได้ 2 อย่างนี้ คือ น้ำดื่ม กับยากันยุงที่มีความต้องการใช้จำนวนมากด้วย และฝากวอนถึงผู้ใช้รถที่ขับผ่านบริเวณที่เป็นจุดอพยพ ชาวบ้านนอนริมถนนขอให้ชะลอความเร็ว และขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะจุดอพยพมีทั้งคนแก่และเด็ก

และจากแนวโน้มจากสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ทางราชการขอให้ประชาชนพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง ให้เฝ้าระวังและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะในช่วงวันที่ 2-3 ตุลาคม ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยาจะคงอัตราการระบายไว้ในเกณฑ์ 2,600 ลบ.ม./วิ ระหว่างวันที่ 2-7 ตุลาคม หรือมีการปรับแผนเพื่อให้สอดคล้องกับมวลน้ำเหนือที่เติมลงมา ซึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้นได้อีก

Advertisement

โดยจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พื้นที่ลุ่มต่ำ คลองโผงเผง อ.ป่าโมก อ.ไชโย จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และ จ.สมุทรปราการ จึงขอให้พื้นที่ตามประกาศเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย

โดยเมื่อช่วงเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ต.ค. 65 พล.ต.ต.กัญชล อินทราราม ผู้บังคับการ ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ได้ลงพื้นที่พร้อมนำกำลังพลไปช่วยบ้านในพื้นที่ชุมชนบางไก่เถื่อน ต.ตะหลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนถูกน้ำท่วมไปแล้ว แต่ชาวบ้านต้องการสงวนพื้นที่โรงเรียนบางไก่เถื่อนไว้เป็นพื้นที่แห้ง เพื่อใช้งานปรับเป็นศูนย์อพยพในอนาคต หรือใช้เป็นพื้นที่ตั้งโรงครัวเพื่อทำอาหารแจกจ่ายประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม โดยกำลังตำรวจ ตชด.ได้ช่วยชาวบ้านและนักเรียนกรอกกระสอบทรายกว่า 1,300 ลูกเพื่อนำไปวางเป็นแนวกั้น ไม่ให้น้ำที่กำลังเอ่อล้นไหลท่วมเข้ามาในพื้นที่สลวนตามเป้าได้ พร้อมกันนี้ พลตำรวจตรีกัญชล ได้มอบอาหารแห้งให้กับชุมชนเพื่อนำไปใช้ในโรงครัวส่วนกลางด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image