หนองบัวลำภู กรมชลประทานเปิดเวทีรับฟังความเห็น โครงการ โขง เลย ชี มูล อำเภอโนนสัง เอ็น จี โอ เมินนั่งฟัง ก่อนเดินหนีสาดน้ำปลา ป่วนห้องประชุด ถูกเอกสารบางส่วนของเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ห้องประชุม คชนรงค์ ชั้น 3 สนง.เทศบาลตำบลโนนสัง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู นายเกียรติศักดิ์ เหมือนหาญ ปลัดอำเภอโนนสัง ได้เปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 เป็นการปฐมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้ำ โขง เลย ชี มูล โดยแรงโน้มถ่วง ระยะที่ 1 ในพื้นที่อำเภอโนนสัง โดยมีนางพรรณี จันทะศรี นายกเทศมนตรีตำบลโนนสัง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ตัวแทนผู้ใหญ่บ้านและผู้มีส่วนได้เสียเข้ารับฟังการความเห็นตามประเด็นที่กรมชลประทานกำหนดขอบเขตการรับฟังฯ ร่วม 150 คน
ทางด้าน นางสาวภิตินันท์ ดอกไม้ หัวหน้าฝ่ายวางโครงการที่ 2 กรมชลประทานกล่าวว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการนำเสนอความเป็นมาของโครงการ ขอบเขตการศึกษา แนวคิดการพัฒนาโครงการเบื้องต้นและแนวทางการศึกษาทบทวนความเหมาะสมและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมพร้อมทั้งแผนการดำเนินงานโครงการฯเพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ก่อนที่จะนำไปเป็นบทสรุปอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้น นายวุฒินันท์ คำเดช ผู้จัดการโครงการฯด้านวางโครงการ ได้ชี้แจงกระบวนการในการส่งน้ำจากแม่น้ำโขงที่จังหวัดเลย ระบบส่งน้ำทางอุโมงค์และคลองส่งน้ำ ที่เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ เส้นเลือดฝอยกระจายในพื้นที่ของเกษตรกรเพื่อการแก้ปัญหาน้ำแล้ง และน้ำท่วม ก่อนจะไหลลงไปยังเขื่อนอุบลรัตน์ ที่จังหวัดขอนแก่น ส่วนความกังวลของเกษตรกรที่อยู่ในแนวคลองส่งน้ำ กลัวน้ำจะท่วม หรือ หน้าแล้ง ไม่มีน้ำ นั้น อย่าลืมว่าน้ำโขงจากจังหวัดเลย จะเป็นตัวเปิด-ปิด ปล่อยหรือปิดน้ำในแต่ละฤดู เพราะฉะนั้นประชาชนที่อยู่ในแนวคลองส่งน้ำอย่าได้กังวล มีแต่จะส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่โครงการฯมีความมั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมกำลังรับฟังการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ได้มีกลุ่มต่อต้านโครงการ คาดว่าน่าจะเป็น กลุ่มเอ็นจีโอ กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ ประมาณ 4-5 คนได้มาร่วมนั่งฟังอยู่ ซึ่งต่อมาได้ไปถือขวดน้ำพลาสติกและเดินเข้ามาทางด้านหลังห้องประชุม จากนั้นกลุ่มเอ็นจีโอได้เทน้ำจากขวดสาดราดลงพื้นที่ และโต๊ะลงทะเบียนของเจ้าหน้าที่ ส่งกลิ่นเหม็นคล้ายน้ำปลาถูกพรมปูพื้นภายในห้องประชุม โดยไม่ได้พูดและแสดงสัญลักษณ์ จากนั้นก็พากันวิ่งหลบหนีจากชั้น 3 ลงข้างล่างซึ่งมีรถเก๋งสีดำรอรับขับหนีออกไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ อปพร.และพนักงานเทศบาลได้ร้องเอะอะโวยวายถึงพฤติกรรมรูปร่างหน้าของกลุ่มคนเหล่านั้น จากนั้นได้ขับรถตามก่อนที่จะไปพบตัว ขาย หญิง คู่หนึ่ง ที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้เคียงกับที่ประชุม จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลโนนสัง ที่ติดตามไป ได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสัง ซึ่งต่อมา ทางผู้ก่อเหตุได้แจ้งกับทางฝ่ายเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโนนสังว่า จะให้ทนายเป็นฝ่ายเจรจาในเรื่องนี้เอง โดยทางผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังทนาย แจ้งถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งต่อมาทางทนายได้ติดต่อและคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ที่ติดตามมาบอกว่า ตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการประสานกับทนายแล้ว ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะขี้นรถขับออกไป
ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของชลประทานคนหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลว่าในเวที ที่จังหวัดขอนแก่น คาดว่าคงเป็นกลุ่มเดียวกันได้ออกมาแสดงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยกับโครงการ แต่ครั้งนั้นเขามาอ่านแถลงการณ์ที่ไม่เห็นด้วย และครั้งนี้ก็คาดว่าคงจะเป็นเช่นนั้น โดยเจ้าหน้าที่ของโครงการกล่าวว่า ทางเราได้เชิญเขามารับฟังชี้แจงความเป็นมาของโครงการ แต่จะไม่ยอมมารับฟังถึงข้อเท็จจริงและผลกระทบ โดยข้อเท็จจริงทุกโครงการจะมีผลกระทบกับพื้นที่ทั้งนั้น แต่รัฐบาลก็มีการเยียวยาให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทุกราย อย่างกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็เช่นเดียวกันเวลาล่ารายชื่อมาร้องเรียนเป็น 100 -1000 ราย ว่าได้รับผลกระทบ แต่พอตรวจสอบเอกสารสิทธิ์จริงๆแล้วมีไม่ถึง 50 คน ซึ่งเวทีการรับฟังความเห็นครั้งนี้ ก็ยังไม่สรุป ทางเราพร้อมที่จะรับฟัง แต่ก็มาป่วนห้องประชุมแล้ว
ทางด้าน นางพรรณี จันทะศรี นายกเทศมนตรีตำบลโนนสัง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มอบหมายให้นิติกรของเทศบาลโนนสัง ไปกล่าวโทษร้องทุกข์กับกลุ่มบุคคลที่มาแสดงสัญลักษณ์ ด้วยการนำน้ำมีกลิ่นคล้ายน้ำปลา มาเทราดใส่พื้นพรมให้ได้รับความเสียหายและส่งกลิ่นในห้องประชุมของสำนักงานเทศบาล จากนั้นเจ้าหน้าที่ของเทศบาลได้เดินทางเข้าพบกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสัง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนจะเป็นกรณีความผิดหนักเบาเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามระเบียบกฏหมายต่อไป
