ญาติพี่น้องเดินทางมาเก็บกระดูกเหยื่อโศกนาฏกรรมเช้านี้ที่วัดราษฎร์สามัคคี พร้อมร่วมทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศล
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่วัดราษฎร์สามัคคี จ.หนองบัวลำภู ภายหลังจากวานนี้ (11 ตุลาคม) มีพิธีพระราชทานไฟหลวงฌาปนกิจ (เผาจริง) ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สังหารหมู่ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู รวม 19 ราย (ผู้เสียชีวิต 20 ราย รวม “น้องซีวิค” ลูกในครรภ์ 8 เดือนของครูพร กับครูพรเป็น 1 ศพ) โดยเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา ญาติๆ เดินทางมาที่เชิงตะกอนที่เผารวมกัน 19 ราย ซึ่งมีพิธีเก็บกระดูกผู้ล่วงลับทั้ง 20 ราย บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบสงบ แต่แฝงไว้ด้วยความเศร้า
ระหว่างการเก็บกระดูกนั้น ญาติช่วยกันค้นหากระดูกเพื่อนำมาใส่ผ้าแยงเขียวไนล่อน ล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นจึงล้างด้วยน้ำอบน้ำหอมและนำเข้าในโกศเก็บกระดูก พร้อมมีการแต่งสำรับกับข้าว อาหารหวานคาว ใส่ถาดพาข้าวมาวางหน้าเชิงตะกอน ส่วนถ้ำถ่านเก็บใส่หม้อดินขนาดเล็ก ปิดปากด้วยผ้าขาว มัดด้วยด้ายสายสินธุ์ จนกระทั่งเวลา 07.00 น. การเก็บอัฐิแล้วเสร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีเก็บกระดูกแล้วครอบครัวได้ขึ้นไปบังสุกลผู้เสียชีวิตบนศาลามีการใส่บาตรข้าวเหนียว ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ ถวายจตุปัจจัยและเครื่องไทยธรรม จากนั้นพระสงฆ์กรวดน้ำให้พร
จากนั้นครอบครัวผู้เสียชีวิตนำอาหารคาวหวาน รวมทั้งขวดนมที่นำมาทำพิธีบังสุกุลไปวางตามต้นไม้ด้านล่าง จุดธูปเรียกเอิ้นด้วงวิญญาณของลูกหลานมารับส่วนบุญกุศล ขอให้ไปเกิดเป็นเทวดาและนางฟ้าบนสวรรค์ บางคนบอกให้ลูกหลานชวนปู่ ย่า ตา ยาย ที่ล่างลับไปแล้วมากินด้วย
ต่อมา พระคุณเจ้าที่วัดราษฎร์สามัคคีแจ้งให้ญาตินำเถ้าถ่านที่อยู่ในหม้อดินไปขุดหลุมฝังบริเวณป่าด้านทิศตะวันออกของวัด ซึ่งขุดหลุมขนาดพอฝังได้ จากนั้นนำหม้อลงฝัง ใช้ไม้เสียมสับลงไปที่ปากหม้อให้ผ้าขาวขาดออกเพื่อให้ดวงวิญญาณที่ผ่านการทำพิธีแล้วไปสู่ภพภูมิของตนเอง หลังฝังเสร็จญาติพี่น้องได้นำต้น ลิ้นมังกรมาปลูกบริเวณที่มีหลักไปสักไว้ เพื่อเป็นการบูชา หรือให้รู้ว่าลูกหลานอยู่ตรงนั้น
พระอนุสิทธิ์ กันตวีโร พระจากวัดเทพมงคลพิชัย บ้านหนองด่าน ได้เดินทางมาร่วมทำพิธีด้วย กล่าวว่า การใช้เสียม หรือไม้สักไปที่ผ้าขาวเป็นการปล่อยให้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิของตัวเอง เป็นประเพณีแบบพื้นถิ่นของแต่ละท้องที่ ซึ่งที่นี่จะทำอย่างนี้ ส่วนการปลูกต้นไม้ไว้นั้นก็ไม่ได้เตรียมไม้ใหญ่ไว้ ให้หาเอาเท่าที่มี จึงใช้ต้นไม้ที่มีในวัดมาปลูกแทน
พระอนุสิทธิ์กล่าวว่า หลังจากเสร็จพิธีฝังเถ้าถ่านแล้ว ครอบครัวผู้เสียชีวิตนำกระดูกส่วนหนึ่งใส่ในโกศ กลับไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนจะนำไปทำตามความประสงค์ของตนเอง หรือตามความพร้อม ส่วนบางคนจะนำไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง
ส่วนที่ วัดเทพมงคลพิชัย บ้านหนองด่าน ญาติทำการเก็บอัฐิ จำนวน 3 ราย ช่วงเวลา 08.00 น. ซึ่งเผาโดยเชิงตะกอนชั่วคราวเมื่อวานที่ผ่านมา
นายเสกสรรค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สามี น.ส.สุภาพร หรือครูพร เปิดเผยว่า ทำใจได้มากแล้ว หลังจากได้กำลังใจจากทุกภาคส่วนที่ส่งมาให้ตนและครอบครัว วันที่ 17 ตุลาคมนี้ จะทำพิธีบุญปราสาทผึ้งที่บ้านของคุณครูพร
ขณะที่ครอบครัวของฝาแฝดที่เสียชีวิตไปพร้อมกัน ครอบครัวนำกระดูกของทั้ง 2 คน ใส่โกศเงิน โกศทอง โดยกระดูกของคนพี่อยู่ในโกศทอง ส่วนน้องอยู่ในโกศเงิน ก่อนจะเปิดเผยว่า จะนำกระดูกของทั้ง 2 คน เก็บไว้ ก่อนจะกำหนดทำบุญ 100 วัน หลังจากนั้นทุกครอบครัวจะนำกระดูกไปทำบุญตักบาตรบนศาลาการเปรียญ ถวายภัตตาหารกับพระภิกษุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
