ผกก.เกาะพะงัน ชี้ นทท.รัสเซีย เสียชีวิตไม่มีข้อบ่งชี้ฆาตกรรม ส่งพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบให้กระจ่าง หลังหนีรักษาโรงพยาบาลหายตัว 1 เดือน เพื่อนประกาศตั้งรางวัลตามหาทั่วเกาะ พบเสียชีวิตเหลือแต่โครงกระดูกในสวนชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ปัญญา นิรัตติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ได้ประชุมตำรวจชุดสืบสวนและสอบสวนกรณีชาวบ้านเข้าไปถางสวนพบศพ นายนิกิต้า แกรโกเรพ (Nikita Grigoryev) อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย สภาพเหลือแต่โครงกระดูก สวมเสื้อกล้ามสีส้ม กางเกงขาสั้นลายสก็อต นอนเสียชีวิตในสวนบริเวณเขาแรด หมู่ 4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน เมื่อบ่ายวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเนินป่ารกร้างห่างจากโรงพยาบาลเกาะพะงันประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชุดเดียวกับที่สวมใส่วันที่หายตัวไปคือ 14 กันยายน 2565 และเพื่อนนายนิกิต้าได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เกาะพะงัน พร้อมประกาศให้รางวัลผู้พบตัว 35,000 บาท
พ.ต.อ.ปัญญากล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพโครงกระดูกนายนิกิต้าและศีรษะทุกชิ้นไม่มีร่องรอยแตก หรือหักแต่อย่างใด ในที่เกิดเหตุยังพบกระเป๋าสะพายข้างของผู้เสียชีวิต มีทรัพย์สินอยู่ครบ ทั้งพาสปอร์ต รูปถ่าย กระเป๋าเงิน และธนบัตร เหรียญเงินสด และอแดปเตอร์ที่ชาร์จมือถือ จึงไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเป็นเหตุฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ หาหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง รวมทั้งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเพื่อคลี่คลายให้กระจ่างในทุกมิติ โดยรายงานให้สถานเอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยทราบแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า นายนิกิต้าและเพื่อนเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต เข้ามายังเกาะพะงันเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2565 เพื่อไปท่องเที่ยวฟูลมูนปาร์ตี้ ต่อมาวันที่ 14 กันยายน ได้เดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเกาะพะงันเพื่อตรวจร่างกาย เนื่องจากมีอาการนอนไม่หลับติดต่อกันหลายคืน เมื่อพยาบาลให้ขึ้นไปนอนรอบนเตียงเพื่อรอพบแพทย์ นายนิกิต้ากลับเดินออกจากโรงพยาบาลหายตัวไป และเพื่อนตามหาไม่พบจึงได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เกาะพะงัน และตำรวจได้ระดมค้นหา ตรวจสอบไม่พบประวัติเดินทางออกไปจากเกาะพะงันแต่อย่างใด
รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพนายนิกิต้าระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลเกาะพะงันก่อนหายตัวไป ผู้ช่วยพยาบาลได้พานายนิกิต้าเข้าไปภายในห้องตรวจเพื่อรอพบแพทย์มาตรวจ เมื่อเดินไปถึงเตียง นายนิกิต้าได้วางกระเป๋าสะพายไว้ที่เก้าอี้ด้านข้าง ทำท่าจะก้าวขึ้นเตียง แต่หันมาหยิบกระเป๋าสะพายแล้วเดินกลับออกไปทางประตูเดิม ท่ามกลางความงุนงงของพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในห้อง โดยใช้เวลาในห้องดังกล่าวประมาณ 1 นาที
