หนุ่มคลั่งหลอนยาบ้าไล่ตีแม่ ทำลายทรัพย์สินในบ้าน ขยายผลจับกุมหนุ่มใหญ่ขาพิการกับเพื่อน พร้อมของกลางยาบ้า 64 เม็ด
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 113 หมู่ 4 ต.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายปรีชา ส่งเสริม หัวหน้าผู้ประสานงานศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายนิธิโรจน์ แก้วเหลา หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วชุดปฏิบัติการ ผู้ว่าฯศรีสะเกษ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. นำกำลัง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจากกองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.ศรีสะเกษ ที่ 2
ร่วมกับ นายบุญชวัฒน์ ปัญญาแดง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมตัว นายวานิช หรือกล้า เวิดสูงเนิน อายุ 25 ปี อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว หลังจากมีประชาชนร้องเรียนไปยัง นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าฯศรีสะเกษ รักษาการผู้ว่าฯศรีสะเกษ ว่านายวานิชมีพฤติการณ์เสพยาบ้าแล้วเกิดอาการหลอน คลุ้มคลั่ง ทำร้ายร่างกายมารดา ทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน และข่มขู่ชาวบ้านไปทั่วจนทำให้เกิดความกลัวเกรงจะถูกทำร้าย
ซึ่งในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบนายวานิชนอนอยู่ใต้ถุนบ้าน บ่นพึมพำคนเดียว แววตาหวาดระแวง ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการพูดคุยมีการข่มขู่เจ้าหน้าที่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่พยายามใช้จิตวิทยาพูดคุย และทำการตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด โดยมีนางสำลี มารดาของ นายวานิชคอยปลอบและดูแลอยู่ตลอดเวลา
โดยจากข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้จากนางสำลี แม่ของนายวานิช ทราบว่า นายวานิชเสพยาบ้ามาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เคยเข้ารับการบำบัดมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่หาย จนกระทั่งระยะหลังเกิดการคลุ้มคลั่ง บังคับเอาเงินจากตนเพื่อไปซื้อยาบ้ามาเสพทุกวัน โดยจะเสพยาบ้าและกัญชาไปพร้อมกัน จากนั้นจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของและข่มขู่จะทำร้ายชาวบ้านอยู่เป็นประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า จากการพูดจาหว่านล้อมหลอกล่อและเกลี้ยกล่อมของเจ้าหน้าที่เพื่อให้นายวานิชบอกข้อมูลถึงแหล่งที่มาของยาบ้าที่ไปซื้อมาเสพ จนทราบว่าไปซื้อยาบ้ามาจากผู้ค้าที่อยู่หมู่บ้านใกล้กัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขยายผลเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 5 ต.โพนเขวา อ.เมืองศรีสะเกษ พบ นายสุริยา หรือเป๋ คำโสภา อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน เป็นบุคคลพิการ เดินลำบาก ต้องใช้ไม้ค้ำยันเวลาเดินอยู่ตลอดเวลา ยืนและสวมผ้ากันเปื้อนอยู่ที่บริเวณสวนหลังบ้านกับ นายอิน หรือโก้ วงศ์ประเทศ อายุ 46 ปี ชึ่งกำลังขุดดินอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งเมื่อทั้ง 2 เห็นเจ้าหน้าที่มีท่าทีตกใจ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวให้ทราบ สอบถามเบื้องต้นทั้ง 2 รับว่าเสพยาบ้าจึงขอทำการตรวจปัสสาวะ
พบมีสารเสพติดจึงตรวจค้นตัวปรากฏว่าพบยาบ้า จำนวน 55 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนของนายสุริยาที่สวมใส่อยู่ ซึ่งรับว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าวอยู่ในการครอบครองของตนจริง และตรวจพบยาบ้า จำนวน 9 เม็ด อยู่ในซองใส่มีดอีโต้ของนายอิน หรือโก้ ซึ่งแขวนอยู่ที่กิ่งไม้ที่นายอินยืนอยู่ ซึ่งนายอินรับว่ายาบ้าดังกล่าวอยู่ในการครอบครองของตนและซุกซ่อนเอาไว้จริง
จากการสอบสวนทั้งนายสุริยา และนายอิน ให้การรับสารภาพว่า ลงขันกันติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจากผู้ค้าในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ มาขายในราคาเม็ดละ 20 บาท ครั้งละ 200-400 เม็ด จากนั้นนำมาขายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ ต.โพนเขวา ในราคาเม็ดละ 60 บาท ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง จากการตรวจสอบประวัติของนายสุริยาทราบว่าเคยถูกจับในคดียาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง
และอยู่ในระหว่างคุมประพฤติ เพิ่งรายงานตัวได้แค่ 2 ครั้งจนกระทั่งมาถูกจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหากับนายสุริยา และนายอิน ในข้อหาเสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน นายวานิช หนุ่มหลอนยาบ้า ได้ส่งเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูตามแนวทางกฎหมาย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.โพนเขวา อ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป