เผยเหตุเพื่อนบ้านยิง ตา 74 ดับ-ภรรยาสาหัส ปมสุดทนดมกลิ่นมูลแพะมานาน

เผยเหตุยิงตาวัย 74 ดับ ภรรยาสาหัส หลานสาววัยขวบเศษเจ็บ ปมมือปืนสุดทนดมกลิ่นมูลแพะมานาน

ความคืบหน้ากรณี นายปรีชา อายุ 62 ปี ชาว อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิง ชายอายุ 74 ปี เสียชีวิต ส่วนภรรยา อายุ 60 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้องได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) หลานสาว อายุ 1 ปี 8 เดือน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ขณะนี้ ภรรยาของผู้เสียชีวิตและหลานสาว รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 17 ต.ค. 65 ที่บริเวณหลังบ้านของผู้เสียชีวิต ใน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

ล่าสุดวันนี้ (วันที่ 18 ตุลาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภรรยาของผู้เสียชีวิต ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วน ด.ญ.เอ (หลานสาว) อาการปลอดภัยแล้ว

ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุในเบื้องต้นทราบว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิต มีอาชีพเลี้ยงแพะมานาน โดยทำคอกแพะเอาไว้หลังบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านของ นายปรีชา ผู้ต้องหา ที่ผ่านมา นายปรีชาได้ขอให้ครอบครัวของ นายบุญมี ย้ายแพะออกไปเลี้ยงที่อื่น เนื่องจากมูลแพะส่งกลิ่นเหม็นมารบกวนถึงบ้าน และครอบครัวของผู้เสียชีวิตมักนำแพะมาผูกเอาไว้กับต้นไม้ที่อยู่ริมรั้วบ้านของนายปรีชาอยู่เป็นประจำ สร้างความไม่พอใจให้กับนายปรีชาเป็นอย่างมาก

Advertisement

จนกระทั่งวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง จนเหตุการณ์เริ่มบานปลาย ลูกเขยของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ จึงตัดสินใจไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมช่องด่านเพื่อให้มาระงับเหตุ

ระหว่างนั้น ผู้เสียชีวิตได้คว้ามีดและทำท่าว่าจะเข้ามาทำร้ายนายปรีชาด้วยความโมโห นายปรีชาจึงเดินไปเอาปืนที่อยู่ในบ้าน กลับมายิงใส่ผู้เสียชีวิต กระทั่งล้มฟุบอยู่กับพื้น จากนั้นภรรยาของผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ได้เดินอุ้มหลานเข้ามาหาและด่าทอ จึงถูกนายปรีชาใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงจนบาดเจ็บ

จากนั้น นายปรีชายังได้หันกระบอกปืนเพื่อจะยิงลูกเขยของผู้เสียชีวิต แต่ได้วิ่งหลบหนีไปเสียก่อน หลังก่อเหตุ นายปรีชา ผู้ต้องหา ได้เดินกลับไปรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ที่บ้านของตนเอง โดยไม่คิดจะหลบหนีไปไหน

Advertisement

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ่อพลอย เดินทางมาถึงและได้คุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน

แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เรียกญาติของทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อหามูลเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุที่แท้จริงเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีในการส่งให้พนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image