บิ๊กโจ๊กแจงทูตตำรวจรัสเซีย ซากโครงกระดูกชาวรัสเซียที่พบ ไม่ได้ถูกฆาตกรรม

บิ๊กโจ๊กเชิญทูตตำรวจรัสเซียลงพื้นที่เกาะพะงัน ฟังรายการงานสืบสวนคดีการเสียชีวิตนักท่องเที่ยวรัสเซีย ที่หายจาก รพ.เกาะพะงัน 29 วัน ก่อนพบศพเหลือแต่โครงกระดูก ล่าสุด ผลการสอบสวนผู้ตายทำร้ายตัวเอง ใช้มือกำลวดหนามทำให้เสียเลือดมากจนเสียชีวิต

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เชิญนายยูริ บอริเซนโก ทูตตำรวจสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย นายพาเวล อายุ 35 ปี สัญชาติรัสเซีย และนายอีกัว อายุ 36 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่ สภ.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมรับฟังรายงานการสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนายนิกิต้า เกรกอเยฟ อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย บนเกาะพะงัน เพื่อให้สิ้นข้อสงสัย โดยมี พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิต ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ปัญญา รัติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

VIDEO CONTENT AVERTISEMENT

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งพบศพไม่ทราบชื่อ ที่บริเวณป่าละเมาะเนินเขาขี้แรด อ.เกาะพะงัน สภาพศพเหลือแต่โครงกระดูก บริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบกระเป๋าคาดเอว ภายในพบหนังสือเดินทางระบุชื่อ นายนิกิต้า เกรยอเยฟ อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปนั้น

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบรายละเอียดว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 65 นายนิกิต้า ผู้ตาย ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยผ่านทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต โดยเดินทางมากับนายอีกอ พันฟีลอฟ อายุ 36 ปี สัญชาติรัสเซีย จากนั้นได้เที่ยวพักผ่อนอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต และมีการขอต่อวีซ่าอีก 60 วันจากกรณีโรคระบาดโควิด จะครบกำหนดวันที่ 30 ตุลาคม 65 แต่นายอีกอเดินทางกลับประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 65 นายนิกิต้าจึงพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง

ADVERTISMENT

ต่อมาวันที่ 30 สิงหาคม 65 นายพาเวล อายุ 35 ปี สัญชาติรัสเซีย เดินทางมาจากรัสเซียมาเที่ยวและพักผ่อนเป็นเพื่อนนายนิกิต้า และวันที่ 9 กันยายน 65 นายพาเวลและนายนิกิต้า ได้ขับรถมาเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้เกาะพะงัน ระหว่างนั้นนายนิกิต้ามีอาการป่วย อาเจียน ทานอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ วันที่ 13 กันยายน 65 จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเกาะพะงัน แพทย์ต้องการให้นายนิกิต้าเข้าพักที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ แต่นายนิกิต้าไม่ยอมและเดินออกจากโรงพยาบาลไปทางเขาขี้แรด ม.4 และหายตัวไป และวันที่ 15 กันยายน 65 นายพาเวลได้ไปแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัวนายนิกิต้า จนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 65 ได้มีผู้พบโครงกระดูกของนายนิกิต้า ผู้ตาย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า วันนี้มีความชัดเจนการเสียชีวิตของนายนิกิต้า นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย จากการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด จากวัตถุพยาน จากหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ การตรวจดีเอ็นเอคราบเลือด และพยานบุคคล เราพบความชัดเจนแล้วว่านายนิกิต้าเสียชีวิตจากการกระทำของตนเองที่อาจเกิดจากอาการเมาหรือความเครียด โดยใช้มือกรีดกับลวดหนามจนมีเลือดออกจำนวนมากเป็นเหตุที่ทำให้เสียชีวิต โดยที่ไม่ได้ถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด โดยทางแม่ขอผู้เสียชีวิตที่อยู่ประเทศรัสเซีย ทูตตำรวจรัสเซีย และเพื่อนผู้ตาย ก็เข้าใจพึงพอใจต่อการทำงานของตำรวจไทยที่ไขคดีนี้ได้อย่างโปร่งใสโดยใช้เวลา 2 สัปดาห์ และคดีนี้จะจบสิ้นในเรื่องของการสืบสวนสอบสอนทั้งหมด

ADVERTISMENT

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ คดีที่มีชาวฝรั่งเศส 2 คน ทำร้ายร่างกายคนไทยจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่เกาะสมุย ตอนนี้ได้ผู้กระทำผิดแล้ว ถึงแม้ว่าตัวผู้เสียหายจะยังไม่ฟื้นแต่เราได้หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ได้แจ้งข้อกล่าวหาและส่งดำเนินคดีแล้ว ส่วนการดำเนินการของมาตรการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็จะดำเนินการเพิกถอนวีซ่า และผลักดันออกนอกประเทศหลังจากคดีอาญาเสร็จสิ้นแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image