สุดทน! ตื่นทั้งหมู่บ้าน โจรปีนรั้วขโมยถี่ พีคสุดคืนเดียว 10 หลังรวด

หมู่บ้านหรูโชว์วงจรปิด คืนเดียวโจรปีนขโมยเกือบ 10 หลังรวด เผยแต่ละปีถูกโจรปีนบ้านนับครั้งไม่ถ้วน

จากกรณี เพจ Drama-addict ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับลงภาพกล้องวงจรปิด ขณะคนร้ายกำลังก่อเหตุปีนบ้านเข้าไปขโมยของ ระบุว่า “ลูกเพจแจ้งมา หมู่บ้านเขาโจรขึ้นบ้านหลายหลังแล้ว เห็นว่าขนาดมีคนอยู่ในบ้าน แม่งยังปืนเข้าไปปล้นเลย สามเดือนนี้แถวบ้านเขาโดนหลายหลัง ชาวบ้านไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ตำรวจยังไม่มีเบาะแส ยังจับคนร้ายไม่ได้ มีแต่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ชาวบ้านเขาติดกันเองแบบในภาพ #แต่งชุดห่าไรเข้าไปปล้นบ้านเขาเนี่ย ชาวบ้านเขาเลยร้องขอความช่วยเหลือมา ถ้า จนท.หรือสื่ออยากได้เบอร์ติดต่อ หลังไมค์มาเลยคนับ พิกัดพัทยา แถวหนองปรือ” จนมีคนเข้าไปคอมเมนต์และแชร์ข้อความดังกล่าวจำนวนมาก

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบหมู่บ้านดังกล่าวใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยเป็นหมู่บ้านโครงการใหญ่ มีบ้านเรือนประมาณ 270 หลัง ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังลงพื้นที่ไปพบว่ากลุ่มลูกบ้านประมาณ 10 คน กำลังรวมตัววิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้น

น.ส.ชิชนิตยา อายุ 38 ปี เจ้าของบ้านที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะที่คนร้ายกำลังปีนเข้ามาขโมยของ แล้วล้วงเอาเงินสดในกระเป๋าเสื้อ จำนวน 600 บาท หลบหนีไป โดยลักษณะของคนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ 160-170 ซม. มีรอยสักที่แขนทั้ง 2 ข้าง นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ โดยใช้เสื้อโพกศีรษะปิดบังใบหน้า ใช้เวลาก่อเหตุประมาณไม่ถึง 3 นาที แล้วปีนหนีออกไป

เจ้าของบ้านเล่าให้ฟังอีกว่า ในคืนวันที่ 20 ตุลาคม เวลาประมาณเที่ยงคืน กำลังนอนดูโทรทัศน์กับสามีในบ้าน โดยไม่คิดเอะใจอะไรจนกระทั่งหลับไป ตื่นเช้าขึ้นไปล้วงจะเอาเงินในกระเป๋าเสื้อก็พบว่าเงินหายไปหมด จึงโทรศัพท์ไปถามสามี ซึ่งสามียืนยันว่าไม่ได้เป็นคนหยิบไป จากนั้นก็มาดูกล้องวงจรปิดย้อนหลังจนปรากฏภาพชายดังกล่าวเข้ามาก่อเหตุจึงรีบไปแจ้งความ แต่ปรากฏว่าตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย วันนี้คนร้ายแค่เข้ามาขโมยของ แต่ถ้ามาเจอเด็ก หรือคนแก่อยู่กันตามลำพัง และถูกก่อเหตุสลดมากกว่านี้แล้วลูกบ้านจะทำอย่างไร

นอกจากนี้ ในคืนวันเดียวกัน (20 ตุลาคม) คนร้ายไม่ได้ก่อเหตุแค่เพียงหลังเดียว แต่ยังไปก่อเหตุปีนบ้านหลังอื่นอีก 5 หลัง แต่ละหลัง ไม่มีร่องรอยการงัดแงะ มีเพียงรอยเท้าของคนร้าย และร่องรอยรื้อค้นทรัพย์สินตามห้องเก็บของ ชั้นวางรอบๆ ตัวบ้าน

ADVERTISMENT

ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปส่วนใหญ่จะเป็นเงินสด ซึ่งบ้านที่สูญเงินมากสุดคือ 2,000 บาท

นายรุ่งโรจน์ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านอีกหลังได้พาไปชี้จุดที่คนร้ายปีนรั้วกำแพงเข้าไปก่อเหตุ เปิดเผยว่า พฤติกรรมของร้ายจะทำทีขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาวนเวียนในหมู่บ้าน พอเห็นบ้านไหนปิดบ้านเงียบแต่เปิดไฟทิ้งไว้ก็จะปีนเข้าไปก่อเหตุ โดยบ้านข้างๆ ได้ยินเสียงผิดปกติจึงลุกขึ้นมาดู และได้ประจันหน้ากับคนร้าย แต่เจ้าของบ้านตั้งสติได้จึงตะโกนไล่ให้คนร้ายออกไป และตะโกนขอความช่วยเหลือ จนชาวบ้านพากันแตกตื่นออกมาช่วย ส่วนคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้

นายรุ่งโรจน์เล่าต่ออีกว่า หมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านมีอายุเกือบ 10 ปี ช่วงแรกๆ ที่หมู่บ้านเปิดใหม่ หน้าหมู่บ้านมี รปภ.ดูแลลูกบ้าน 24 ชม. แต่มาช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา หลังโครงการหมู่บ้านขายหมด เจ้าของหมู่ก็ไม่เคยมาสนใจ รปภ.ก็ไม่มี ตู้ยามทางเข้าหมู่บ้านก็ปล่อยรกร้าง จะขอจดนิติบุคคลก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกรมที่ดินเข้ามาตรวจสอบพบว่าถนนในหมู่บ้านไม่ได้ขนาดที่กฎหมายกำหนด จนลูกบ้านต้องอยู่กันแบบตามมีตามเกิด ในแต่ละปีถูกคนร้านก่อเหตุยกเค้า ลักทรัพย์นับครั้งไม่ถ้วน แจ้งความกับตำรวจก็จับคนร้ายไม่ได้

นายวัลลพ อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านอีกหลัง เล่าความเจ็บปวดให้ฟังว่า เมื่อ 2 เดือนก่อนถูกคนร้ายในคราบฟู้ดไรเดอร์แห่งหนึ่งเข้ามาทำทีส่งอาหารในหมู่บ้าน ก่อนจะก่อเหตุถอดไฟท้ายรถอีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีขาว ป้ายแดง เพิ่งถอยออกจากโชว์รูมได้เพียง 4 วัน โดยถูกขโมยไปทั้ง 2 ข้าง กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะคนร้านขี่รถวนหลายสิบรอบก่อนจะลงมือก่อเหตุ แต่ไปแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ได้แต่รับแจ้งความ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ และได้รับการเปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้ส่งฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและเบาะแสของคนร้ายแล้ว โดยกำลังให้ไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ และจะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด