กาฬสินธุ์ยังหนัก น้ำท่วมบ้านกว่า 1,600 ครัวเรือน ใน 2 อำเภอ นาข้าวจมกว่า 8 หมื่นไร่ หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ ขณะที่ความคืบหน้าซ่อมพนังลำชีขาด 50 เมตร ล่าสุด ยังไม่สามารถอุดรอยขาดช่วง 5 เมตรสุดท้ายได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรงและลึก ส่วนถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ดยังปิดการจราจร รอน้ำลด พร้อมจัดเส้นทางเลี่ยง
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าผลกระทบจากพนังกั้นแม่น้ำชีขาดกว่า 50 เมตร ในพื้นที่ ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะนี้ยังขยายวงกว้าง เนื่องจากมวลน้ำมหาศาลที่ไหลเข้ามาตลอดทั้งสัปดาห์ยังเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนน และพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวเป็นวงกว้าง
จากความพยายามของเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานได้เร่งซ่อมพนังมาตลอด 24 ชั่วโมง นานกว่า 1 สัปดาห์ ล่าสุด เหลือเพียง 5 เมตรสุดท้าย แต่ยังไม่สามารถอุดรอยได้สำเร็จ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวกระแสน้ำแรงกว่าเดิมเป็น 2 เท่า และลึก เจ้าหน้าที่วางหินลงไปก็ถูกกระแสน้ำพัดไปหมด จึงต้องวางแผนการซ่อมใหม่ โดยเฉพาะนำวัสดุมาวางเป็นแนวสามเหลี่ยม หรือหัวตัว A เพื่อลดความแรงของกระแสน้ำ พร้อมกับเร่งนำหินเข้ามาเพิ่ม และจะพยายามซ่อมให้เสร็จภายในวันนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! พนังกั้นน้ำชีขาดแล้ว มวลน้ำไหลเข้าท่วม รองผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ สั่งอพยพประชาชน 2 อำเภอ
- พื้นที่การเกษตรจมน้ำกว่า 20,000 ไร่ เหตุพนังกั้นน้ำชี จ.กาฬสินธุ์ แตก ตั้งจุดอพยพเพิ่ม
- พนังกั้นน้ำชีขาดยังขยายวงกว้าง มวลน้ำไหลท่วมถนนกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ทะลักเข้าหลายชุมชน
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุพนังกั้นแม่น้ำชีขาด ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ช่วงคืนของวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา จ.กาฬสินธุ์ ได้ระดมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้นำชุมชน จิตอาสา และประชาชนในพื้นที่ทำการซ่อมแซมตลอด 24 ชั่วโมง นานกว่า 1 สัปดาห์ กระทั่งล่าสุดเหลืออีกเพียง 5 เมตร ช่วงนี้การซ่อมแซมเป็นไปด้วยความยากลำบากมาก เพราะกระแสน้ำแรงกว่าเดิมเป็น 2 เท่า และลึก แต่ก็จะพยายามซ่อมให้เสร็จในวันนี้ จากนั้นจะดำเนินการซ่อมแซมตามขั้นตอน เพื่อเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงตามหลักวิศวกรรมต่อไป
นายศุภศิษย์กล่าวว่า ส่วนถนนกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด จากการประสานกับแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ล่าสุด การจราจรยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เพราะน้ำยังท่วมอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ให้รถใหญ่ใช้เส้นทางเลี่ยงจากบ้านหนองตุไปบ้านโจด เพื่อไป จ.ร้อยเอ็ด ส่วนรถเล็กต้องใช้เส้นทางเลี่ยงจากสี่แยกไฟแดงบ้านบ่อ อ.กมลาไสย เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ มุ่งหน้าเข้า จ.ร้อยเอ็ด ไปก่อน รอระดับน้ำลดจึงจะเปิดใช้
นายศุภศิษย์กล่าวต่อว่า ต่อไปจะต้องให้พื้นที่ด้านท้ายน้ำ อ.ร่องคำ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และเร่งนำมวลน้ำที่ไหลเข้ามาเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนและทุ่งนาในขณะนี้ระบายออกสู่แม่น้ำชีให้เร็วที่สุดเพื่อลดผลกระทบ ส่วนการให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชน จิตอาสา และมูลนิธิต่างๆ ยังคงให้การช่วยเหลือทั้งการเยียวยาจิตใจ นำแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าดูแลสุขภาพร่างกายประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และนำเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าให้การช่วยเหลือแจกจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแล้ว
สำหรับผลกระทบที่เกิดจากพนังกั้นแม่น้ำชีขาด มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย รวม 6 ตำบล 30 หมู่บ้าน 1,614 ครัวเรือน 4,574 คน วัด 8 แห่ง โรงเรียน 3 แห่ง รพ.สต. 2 แห่ง ถนน 10 สาย พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหายรวมประมาณ 79,514 ไร่ พื้นที่การประมง 285 ไร่ และอยู่ระหว่างการเร่งสำรวจเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง
