ค้นบ้านเสี่ยอุดร เจอสื่อลามกอื้อ พร้อมเด็ก 15 สองคน ปัดไม่ได้ล่วงละเมิดเด็ก 16 อ้างรักเหมือนลูก

ค้นบ้านเสี่ยอุดร เจอกล้องสื่อลามกอื้อ ปัดไม่ได้ล่วงละเมิด อ้างรักเหมือนลูก

กรณีนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก จากเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้นำ น.ส.นิด (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาวอุดรธานี แจ้งตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกเสี่ย ป. (นามสมมติ) อายุ 50-55 ปี ชวนไปถ่ายภาพและคลิปเปลือย แลกค่าตอบแทน 600 บาท เกรงว่าภาพจะหลุดไปในโลกโซเชียล และยังมีนางสวย (นามสมมติ) อายุ 50 ปี เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกสาว ซึ่งเป็นลูกครึ่งฝรั่ง หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2565 ติดต่อไม่ได้ เพื่อนบอกว่า ด.ญ.เอ ไปอยู่บ้านเสี่ย ป. ก่อน ด.ญ.เอ กลับมาบ้าน และตำรวจได้สอบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายค้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2565 พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุรชิต ฤทธิ์ลี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.สุชัย นันแก้ว รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี และตำรวจ ปคม. นำกำลัง พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ ค 186/2565 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งระบุว่าเป็นบ้านเสี่ย ป.

พบเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ในเนื้อที่ราว 1 งานเศษ ประตูหน้าบ้านล็อกกุญแจจากด้านใน ตำรวจได้เรียกเจ้าของบ้าน แต่ไม่มีเสียงใครตอบรับ แต่ไฟในบ้านยังเปิด กระทั่งพบเด็กสาวมาเปิดประตูหลังบ้าน และประมาณ 20 นาที เสี่ย ป. เดินทางเข้ามาบ้าน แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ตำรวจได้แสดงหมายค้น อ่านให้ฟังจนเข้าใจ เนื่องจากมีเด็กไปแจ้งความว่าถูกเสี่ยอนาจารที่บ้านหลังนี้ ซึ่งเสี่ยก็รับฟังและให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี และนำตรวจค้นพบมีห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนเล็กพบเด็กสาว 2 คน ประกอบด้วย น้องโม อายุ 15 ปี น้องฝ้าย อายุ 15 ปี และถุงยางอนามัย 2 กล่อง เหล้าโซจู 1 ขวด วางอยู่ข้างทีวีจอแบนขนาดใหญ่ยักษ์ และเปิดแอร์เย็นฉ่ำภายในห้อง

บริเวณห้องนอนใหญ่ซึ่งเป็นห้องนอนเสี่ย ป. พบอุปกรณ์คล้ายสตูดิโอถ่ายรูป จากการตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พบสื่อลามกเด็กจำนวนมาก โดยเสี่ย ป. ให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า ห้องที่พบเป็นสตูดิโอ เป็นห้องนอนของตน ส่วนอุปกรณ์ที่พบ เป็นฉากที่ตัวเองหัดถ่ายภาพให้เด็ก การถ่ายภาพเป็นภาพที่นำไปใช้ส่วนตัว ถ่ายเสร็จก็ลบ ส่วนเรื่องแก้ผ้า เป็นความสมัครใจของเด็ก หากเด็กต้องการใช้เงิน เสี่ยก็ให้ และไม่เคยทำอะไรเด็ก นอกจากการถ่ายภาพ และทำแบบนี้มาประมาณ 1 เดือน

Advertisement

ส่วนประเด็นที่เห็นเด็กมาอยู่ที่บ้านจำนวนมาก ก็เป็นเพราะว่า ตนรักเด็ก พอเด็กไม่มีที่ไป ก็บอกต่อๆ กันให้เข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่ ที่เลือกเฉพาะเด็กผู้หญิง ไม่รับเด็กผู้ชาย เพราะเกรงว่า หากมีเด็กผู้ชายเข้ามา ก็จะวุ่นวายเรื่องชู้สาว ส่วนถุงยาง เด็กที่อยู่เขาต้องการ ก็เลยหามาให้เท่านั้น ส่วนเหล้าเป็นของเด็กที่นำมาเอง และที่เคยโทรไปหาเด็ก อันนี้จำไม่ได้ว่าโทรไปพูดอะไรกับเด็กบ้าง ซึ่งเสียงดังกล่าว อาจจะเป็นเสียงที่ตนเองพูดเล่นกับเด็ก ยืนยันไม่ได้ทำอะไรเด็ก ทั้งนี้ยอมให้ตำรวจตรวจค้น และพร้อมที่จะไปให้ปากคำกับตำรวจที่โรงพัก

เมื่อสอบถาม น้องโม กับน้องฝ้าย ที่พบอยู่ในห้องนอน บอกว่า มาเล่นที่บ้านเสี่ยเฉยๆ ตั้งแต่มายังไม่เคยเข้าไปในห้องเสี่ยเลย ไม่รู้ว่าข้างในห้องของเสี่ยเป็นห้องที่มีไว้ทำอะไร ที่ผ่านมายอมรับว่าเด็กลูกครึ่ง มาอยู่ที่บ้านของเสี่ย แต่ไม่รู้ว่า มาอยู่ทำไม และเสี่ยก็ไม่เคยบังคับให้ทำอะไร และก็ดูแลเด็กในบ้านเหมือนครอบครัว พ่อแม่ก็รู้ว่าพวกตนมาอยู่นี่ และไม่ได้เรียกว่าเสี่ย จะให้เรียกว่าพ่อ

ขณะที่ตำรวจกำลังตรวจค้น มี น.ส. เอม อายุ 17 ปี สาวหล่อ แสดงตัวเป็นพี่สาวน้องฝ้าย เล่าว่า ตนเคยมาบ้านของเสี่ย ป. มาดูหนังกินข้าว ส่วนใหญ่จะมีเด็กผู้หญิงที่เป็นเด็กเขา โดยเฉพาะเพื่อนน้อง อยู่ในห้อง โดยเสี่ย ป. จะมีพฤติกรรมลวนลามเด็กสาวที่มาอยู่ด้วย มีโอบกอดและจับหน้าอก และเสี่ยจะให้เด็ก 2 คน มานอนด้วย โดยจะมีการถอดเสื้อผ้าทั้ง 2 คน ถ้าเด็กคนไหนไม่กล้าหลับนอนด้วย ก็จะหลับนอนกับอีกคนให้อีกคนดู แล้วจะตั้งกล้องถ่ายไว้ ตนเคยถามว่าตั้งกล้องไว้ทำอะไร เขาก็บอกว่า ตั้งไว้ดูเฉยๆ เสี่ย ป.มีการร่วมเพศกับเด็ก โดยจะโทรไปหาพูดจาชักชวนเด็กเพื่อมามีอะไรกันที่บ้าน หลังจากที่มีอะไรกันแล้วเสี่ย ป. จะให้เงิน ตั้งแต่ 1,000  1,200 และ 3,000 บาท

Advertisement

ด้านตำรวจได้ตรวจยึดกล้องถ่ายรูป 3 ตัว เมมโมรี่การ์ด 20 อัน โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง มือถือ 15 เครื่อง ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี นำเด็กสาวทั้งสองไปไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวอุดรธานี เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเสี่ย ป. “ครอบครองสื่อลามก พรากผู้เยาว์” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมกับตรวจสอบภาพลามกในคอมพิวเตอร์ หากพบว่ามีการล่วงละเมิดเด็กจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image