คนสามพรานโวย ชลประทานปล่อยน้ำ ไม่เห็นใจคนท้ายน้ำ จมเสียหายหนักกว่าทุกปี
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจตลาดเก่าสามพราน ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นตลาดเก่าริมแม่น้ำท่าจีน เก่าแก่กว่า 100 ปี ปัจจุบันเป็นชุมชนบ้านไม้เก่าสองชั้นริมน้ำ และชุมชนใหม่ตึกสูง ได้มีน้ำท่วมขังสูงจากพื้นผิวจราจรกว่า 30 ซม. เข้าท่วมบ้านเก่าที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย ที่มีพื้นที่ต่ำกว่าน้ำสูงถึง 100 ซม. ทำให้ข้าวของเสียหายจำนวนมาก
ส่วนพื้นที่ชุมชนใหม่ แม้น้ำจะไม่ทะลักเข้าท่วมในบ้าน แต่น้ำท่วมสูงกว่าปกติ ต้องก่อซีแพคป้องกันน้ำถึง 50 ซม. และอยู่ในสภาพนี้มากว่า 1 เดือน แต่สัปดาห์นี้น้ำเอ่อล้นเข้ามาในพื้นที่ชุมชนมากกว่าที่ผ่านมา เรียกว่าสูงมากกว่าปี 2554 ที่น้ำท่วมหนักถึง 30 ซม. และคาดว่าจะสูงขึ้นอีกขึ้นช่วง 15 ค่ำวันลอยกระทง เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงสุดในรอบปี
ด้านป้าเปี๊ยก อายุ 75 ปี ชาวบ้านตลาดเก่าสามพราน กล่าวว่า ที่บ้านค้าขายของมากว่า 70 ปี บ้านเราเป็นบ้านเก่าริมแม่น้ำ เราประสบกับสภาวะน้ำขึ้นน้ำลงทุกปี เราเรียนรู้ธรรมชาติอยู่กับน้ำมายาวนาน แต่ปีนี้น้ำมากเหลือเกิน รู้แต่ว่าชลประทานปล่อยน้ำลงมาตลอดทำให้น้ำล้นเอ่อแม่น้ำ ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ทำให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนไม่สามารถระบายออกลงสู่ทะเลที่ จ.สมุทรสาคร ได้ และไหลกลับมาเอ่อล้นในพื้นที่ และคราวนี้น้ำมาสูงมาก สูงกว่าถนน 70 ซม. และพื้นบ้านที่ต่ำกว่าถนนลึกลงไปอีก 50 ซม. เรียกว่าในบ้านอยู่ไม่ได้ ต้องหนีไปอยู่ชั้นสอง ปล่อยให้ข้าวของ สินค้าจมน้ำไว้ก่อน
ด้านนางจูกล่าวว่า ขอตำหนิกรมชลประทานที่ปล่อยน้ำมาขนาดนี้ ไม่เห็นใจคนท้ายน้ำบ้างเลย เราว่าน้ำแล้งดีกว่านะ น้ำท่วมทำกินไม่ได้ ข้าวของเสียหาย อยากให้ชลประทานคิดเรื่องนี้บ้าง ลำพังท้องถิ่น หรือระดับอำเภอก็ทำอะไรไม่ได้ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ และการบริหารจัดการน้ำ
ขณะเดียวกัน นายจิระวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมคณะสมาชิกสภา อบจ. ข้าราชการในสังกัด ผู้นำท้องถิ่น นำถุงยังชีพไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน อ.สามพราน อ.นครชัยศรี อ.บางเลน อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์เบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชนยามทุกข์ยากในขณะนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนของ อ.บางเลน อ.นครชัยศรี และ อ.สามพราน เป็นพื้นที่รับน้ำทำให้เกิดมีน้ำสะสมในพื้นที่การเกษตร และชุมชนอยู่เป็นระยะเวลานานกว่าพื้นที่อื่น โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำท่าจีน
