หนูน้อย 10 วัน จมน้ำเสียชีวิตในกะละมัง แม่เผยวูบหลับ คาดเพลียจากการไปส่งสามีเกณฑ์ทหาร

สลด หนูน้อยวัย 10 วัน จมน้ำในกะละมังเสียชีวิต แม่ระบุเป็นลมวูบ หลับไปไม่ต่ำกว่า 15 นาที ระหว่างอาบน้ำให้ลูก ตื่นมาเจอลูกแน่นิ่งอยู่ในน้ำแล้ว รีบแจ้ง 1669 และปั๊มหัวใจ แต่สุดยื้อ

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ร.ต.ท.(หญิง) เกวลิน ชัยรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจาก รพ.ตรัง ให้เข้าชันสูตรพลิกศพร่างหนูน้อยวัย 10 วัน เสียชีวิตจากการจมน้ำ เหตุเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรังเข้าพิมพ์ลายนิ้วมือและร่วมกันชันสูตรพร้อมด้วยแพทย์เวร

เมื่อไปถึงพบร่าง ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 วัน นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง บรรดาญาติและครอบครัวอยู่ในอาการเสียใจ แพทย์และพยาบาลได้ตรวจร่างกาย น.ส.นวลจันทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี แม่ของ ด.ญ.เอ พบค่าต่างๆ ของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ

น.ส.นวลจันทร์เล่าว่า มีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 4 ขวบ ส่วนคนเล็กคือ ด.ญ.เอ อายุ 10 วัน ช่วงเช้าวานนี้ (1 พ.ย.) ตนพร้อมกับครอบครัวได้พา ด.ญ.เอ ไปส่งสามีขึ้นรถ เนื่องจากสามีต้องไปประจำการเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงกลับมาที่บ้านโดยที่คนในครอบครัวไม่มีใครอยู่ มีเพียงตนและ ด.ญ.เอ 2 คน

แม่เด็กที่เสียชีวิต

น.ส.นวลจันทร์กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นรู้สึกมึนหัว คล้ายจะเป็นลมมาตลอด ก่อนจะนำ ด.ญ.เอ ไปอาบน้ำในห้องน้ำ โดยนำน้ำใส่กะละมัง ซึ่งระดับน้ำในกะละมังสูงประมาณสะเอวลูกหากลูกนั่งในกะละมัง โดยที่ตนนั่งยองๆ และใช้มืออาบน้ำให้ลูกได้ไม่ถึงประมาณ 2 นาที จากนั้นตนวูบและหลับลงไปไม่รู้สึกตัว และไม่รู้ด้วยว่าหลับไปกี่นาที แต่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 15 นาที จนกระทั่งรู้สึกตื่นขึ้นมา

Advertisement

น.ส.นวลจันทร์กล่าวว่า ตนนอนอยู่ข้างกะละมัง รีบลุกไปดูลูก พบว่านอนแน่นิ่งตะแคงอยู่ในกะละมังแล้ว จึงรีบยกลูกขึ้นมา พบว่าไม่หายใจ ตัวซีด ที่ท้องรวมทั้งเส้นเลือดเริ่มมีสีคล้ำ ท้องป่อง จึงรีบโทรแจ้งรถโรงพยาบาล (1669) พร้อมโทรแจ้งครอบครัว ก่อนที่หน่วยกู้ชีพจะแนะนำให้ปั๊มหัวใจและเป่าปากให้ลูก จนกระทั่งรถโรงพยาบาลมารับและพยายามช่วยยื้อชีวิต ด.ญ.เอ มาตลอดจนถึง รพ.ตรัง แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ ลูกได้เสียชีวิตลงแล้ว

น.ส.นวลจันทร์กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าวันที่ไปส่งสามีไปทหาร อากาศร้อนมาก แถมตนเพิ่งคลอดลูกมา เกิดอาการเวียนศีรษะ ทำให้วูบในครั้งนี้ ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ เคสนี้อยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งจะคลอดลูกขอให้ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีๆ หากมีอาการผิดปกติกับร่างกายอย่าเก็บอาการ ให้บอกคนใกล้ชิด หรือไปพบแพทย์

Advertisement

ขณะที่ นายอนันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี พ่อของ น.ส.นวลจันทร์ บอกว่า ปกติบ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่กันประมาณ 7-8 ชีวิต หลังจากไปส่งลูกเขยซึ่งเป็นพ่อของ ด.ญ.เอ กลับมาที่บ้านแล้ว ตนกับภรรยาได้ออกไปธุระข้างนอก ส่วนคนอื่นๆ ไปทำงานและไปโรงเรียนกัน มีเพียงลูกสาวและหลานอยู่กัน 2 คน จนกระทั่งลูกสาวโทรมาบอกว่าวูบหลับไป ส่วนหลานนอนแน่นิ่งไปแล้ว ซึ่งในละแวกบ้านไม่มีบ้านของใคร หากมีก็อยู่ห่างไปกว่า 500 เมตร

นายอนันต์กล่าวอีกว่า ลูกสาวก็บอกไม่ได้ว่าวูบหลับไปกี่นาที แต่เท่าที่ทราบเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. ลูกสาวยังอ่านไลน์อยู่ และโทรแจ้งรถโรงพยาบาลเวลาประมาณ 15.30 น. อยากฝากเตือนว่าถ้าคนมีลูกอ่อน หากมีอาการมึนหัว หรือผิดปกติพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อันตราย เช่น ใกล้น้ำ ให้ไปอยู่บนที่นอน หรือที่อื่นๆ เสียดีกว่า

เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ส่วนทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงไม่ได้ส่งร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.สงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พนักงานสอบสวนได้มอบร่างให้ทางญาติ โดยญาติๆ ขอเก็บร่าง ด.ญ.เอ ที่ รพ.ตรัง 1 คืน เพื่อปรึกษากันเรื่องบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image