คนร้ายคลั่งยา ตีหัวแม่ตัวเองเสร็จ ถือมีดไปศูนย์เด็กเล็ก ครูรีบล็อกทุกประตู ทำวุ่นทั้งตำบล

บุรีรัมย์ – ครูประจำศูนย์เด็กเล็ก เผยนาทีที่ได้รับแจ้งว่า มีคนคลุ้มคลั่งจะบุกมาที่ศูนย์ฯ ชี้มีการซ้อมแผนก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยอมรับตื่นเต้นมาก ตำรวจตรวจสอบวงจรปิด พบวนเวียนศูนย์เด็กจริง 2 รอบ

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน กรณี นายกองพล หรือหมิง (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง คล้ายกับหลอนยาบ้า ก่อเหตุใช้ไม้ตีหัว นางสาวสุภาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี แม่ของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ แล้วยังกลับไปเผาบ้านตัวเองวอดทั้งหลัง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านด้วยว่า นายหมิง กำลังจะออกไปที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโนนสุวรรณ เพื่อไปตามหาลูกวัย 4 ขวบ ทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของเทศบาลโนนสุวรรณ และครูในศูนย์เด็กเล็ก ต่างเตรียมความพร้อม หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เหมือนกับจังหวัดหนองบัวลำภู

น.ส.ดาวประกาย กำพูชาติ ครูประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล ต.โนนสุวรรณ เล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่า ก่อนหน้านี้ทางศูนย์เด็ก ได้รับนโยบายกรอบการป้องกันเด็กไว้แล้ว คือหลังจากผู้ปกครองเด็กมาส่งบุตรหลาน ให้ล็อกทุกจุดของศูนย์เด็ก ซึ่งได้ทำมาเป็นประจำทุกวัน

ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่เด็กนักเรียนที่มาเรียนวันนี้ประมาณ 50 คน จาก 90 คน กำลังซ้อมฟ้อนเพื่อจะไปร่วมกิจกรรมวันลอยกระทง ได้มีผู้ปกครองหลายคนวิ่งมาบอกว่า นายหมิง กำลังจะบุกมาที่ศูนย์เด็กเล็ก ถือมีดมาด้วย จึงได้ให้เด็กขึ้นไปชั้นสอง พร้อมล็อกประตูทุกจุด ส่วนเด็กไม่ทราบว่า มีเหตุอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้ว่า จะมีการเตรียมความพร้อมไว้ก็ตาม แต่ตื่นเต้นมาก เพราะเคยเห็นแค่จังหวัดอื่น ไม่คิดว่าจะมีเหตุล่อแหลมแบบนี้

Advertisement

ด้าน น.ส.ศุภิสรา ศรีงาม นายกเทศบาลตำบลโนนสุวรรณ ได้ออกมาระบุว่า ที่ผ่านมาหลังจากมีเหตุที่จังหวัดหนองบัวลำภู ได้มีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมแผนไว้ป้องกันเหตุ กับกลุ่มที่ติดยาเสพติด ยอมรับว่า เทศบาลทำได้เพียงการรณรงค์ และการป้องกันผู้เสพยาเท่านั้น ส่วนข้อกฎหมายเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง แต่ตอนนี้ยังไม่มั่นใจว่า นายหมิง ซึ่งมีอาการถึงขนาดนี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมไว้ได้นานแค่ไหน

ต่อมา ตำรวจสามารถจับกุมนายหมิง ได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ทุ่งนา เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวไปคุมขังไว้ก่อน เพราะอยู่ในอาการคลั่ง พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ยังไม่ได้ตรวจหาสารเสพติด ซึ่งจะต้องรอนายหมิง หายคลุ้มคลั่งก่อน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องจากภาพวงจรปิด พบว่า นายหมิง ได้มาวนเวียนผ่านหน้าศูนย์เด็กเล็กจริง แต่ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขที่ดีมากกว่าการป้องกัน เพราะผู้ก่อเหตุจัดว่า เป็นกลุ่มผู้เสพ คือผู้ป่วยเท่านั้น

  

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image