กองกำลังบูรพาแจงเหตุปิดล้อมชายกัมพูชา แยกวัฒนานคร หลังแหกด่านตรวจ
จากเหตุการณ์ที่แยกวัฒนา หลังผู้ก่อเหตุแหกด่านที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ติดตาม และเกาะติดตลอดคืนวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ผลีผลามเข้าดำเนินการจับกุม ในช่วงเวลากลางคืนเพราะความมืดและเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีปืนพก หากมีการใช้ความรุนแรง อาจกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันที่ 6 พฤศจิกายน เมื่อสว่างแล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการปิดล้อมไว้ ด้าน กกล.บูรพา ได้ประสานงานกับ สน.ปทก. และสถานกงสุลกัมพูชาประจำจังหวัดสระแก้ว อำนวยความสะดวกให้ครอบครัวและเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาที่คุ้นเคยกับผู้ก่อเหตุ เข้าร่วมเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงจัดกำลังจาก ร้อย.คทร.ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจหนองกุง ช่วยเหลือ จนท.ตำรวจ ในการดูแลความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
กกล.บูรพา ร่วมกับ สน.ปทก. อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาที่คุ้นเคยกับผู้ก่อเหตุเดินทางเข้ามาเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ขณะที่ร้อย คทร.กกล.บูรพา จัดกำลังร่วมกับตำรวจ ปิดกั้นพื้นที่และจัดระบบการจราจรโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.50 น. มีรายงานว่า จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ขับขี่เป็นชาวกัมพูชา เบื้องต้นทราบว่าเกิดอาการเครียด เนื่องจากแยกทางกับภรรยา ขับรถยนต์สัญชาติกัมพูชา ยี่ห้อจี๊ปแรงเลอร์สีดำ ผ่านเข้ามาจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด ด้วยความเร็ว เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกหยุดตรวจกลับเร่งเครื่องหลบหนี จึงได้ประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อสกัดจับ
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวกัมพูชาคนดังกล่าว เป็นทหารกัมพูชา ชื่อ ซอกพล แหกด่านเข้ามาในอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ไทยขับตามมาถึง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมได้ที่บริเวณสี่แยกวัฒนานคร ยิงยางรถล้อหลังของคนร้ายแตก
ทั้งนี้ พบว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาให้มอบตัวแต่ไม่ยอมลงจากรถ กระทั่ง 08.00 น. ชายกัมพูชาคนดังกล่าว ได้ออกจากรถถือปืนยืนอยู่กลางสี่แยกไฟแดง วัฒนานคร ถือปืนอยู่ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. กระทั่งเวลา 13.30 น. คนร้ายยังยืนอยู่กลางถนน เจ้าหน้าที่จึงปิดถนน ทั้ง 4 ด้าน มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและกัมพูชากว่า 200 นาย ยืนคุมอยู่รอบนอก โดยคนร้ายไม่ยอมรับน้ำและอาหารที่เจ้าหน้าที่ยื่นให้แต่อย่างใด