ตามล่าโจร ใช้แบงก์พันปลอม ซื้อสินค้า ร้านโชห่วยเมืองอุดร
เมื่อเวลา 14.48 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ขณะที่ พ.ต.ต.วัฒพงศ์ จำนงอุดม สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มีนายณรงค์ชัย สาสุนทร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290/1 ม.7 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่ามีคนร้ายเป็นวัยรุ่นชายใช้ธนบัตรปลอมมาซื้อของที่ร้านชำของผู้เป็นแม่ ภายในชุมชนเวียงพิงค์ ปากซอยเวียงพิงค์ 3 ถ.อุดรดุษฎี เทศบาลนครอุดรธานี โดยนำธนบัตรไทยปลอม ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1 ใบ 0ธ 2144234 หรือ 2A 2144234 และภาพจากกล้องวงจรปิด มาเป็นหลักฐาน
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุ 20-25 ปี จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีฟ้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนมาจอดหน้าร้าน คนร้ายที่เป็นคนซ้อน เดินเข้ามาซื้อสินค้าในร้าน รูปร่างผอมสูง ตัดผมรองทรงสั้น สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมหน้ากากอนามัยสีดำ รองเท้าแตะ ส่วนคนขับที่นั่งสูบบุหรี่รออยู่ที่เบาะรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน รูปร่างผอมสูง ตัดผมรองทรงสั้น สวมเสื้อแขนยาวแบบมีฮู้ดสีกรมท่า กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าแตะ โดยใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1.30 นาที ก่อนพากันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านของชำที่เกิดเหตุ พบนางเอมอร สาสุนทร หรือป้าเล็ก อายุ 65 ปี เจ้าของร้าน เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยป้าเล็กเปิดเผยว่า เปิดร้านขายของชำมานานกว่า 30 ปี เคยเจอลูกค้านำแบงก์ปลอมมาซื้อมาแล้ว 1 ครั้ง นานมาแล้วตั้งแต่ยังไม่มีกล้องวงจรปิด
วันนี้ช่วงสายขณะกำลังแบ่งหมูสดใส่ถุงเพื่อขายภายในร้าน มีชายวัยรุ่น 1 คนเดินเข้ามาขอซื้อเครื่องดื่มชาสำเร็จรูป 3 ขวด และบุหรี่ 1 ซอง รวมเป็นเงิน 100 บาท ตอนนั้นสังเกตเห็นว่ามีชายวัยรุ่นอีกคนนั่งรออยู่บนรถจักรยานยนต์หน้าร้าน ด้วยความที่เป็นห่วงเนื้อหมูสด รีบขายรีบกลับไปแบ่งหมูสดเพื่อนำเข้าตู้เย็น จึงไม่ได้สังเกตแบงก์พันที่คนร้ายนำมาจ่ายค่าสินค้า เมื่อคนร้ายได้เงินทอนไป 900 บาท ก็รีบเดินไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออกไปทางหน้าปากซอย
ปกติเห็นข่าวมาตลอดว่าที่ จ.อุดรธานี มีคนร้ายนำแบงก์พันปลอมออกตระเวนก่อเหตุทำทีมาซื้อของ เฝ้าระวังคอยสังเกตธนบัตรที่ลูกค้านำมาซื้อสินค้าตลอด วันนี้ตนเองพลาดเองที่ไม่ตรวจดูให้ดี เมื่อรู้ว่าถูกหลอกจ่ายค่าสินค้าด้วยแบงก์พัน หันไปอีกทีคนร้ายทั้ง 2 คนก็หลบหนีไป
ก่อนรีบไปปลุกลูกชายที่พักผ่อนอยู่ภายในห้องหลังร้าน ให้ออกมาตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และให้รีบไปแจ้งความที่โรงพัก อยากฝากบอกคนร้ายว่า อยากให้สงสารร้านชำแบบตนเองด้วย ค้าขายก็ไม่ดี กำไรก็น้อย ยังมาถูกโกงแบบนี้อีก อย่าไปก่อเหตุแบบนี้กับใครอีกเลย และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
