อลหม่านชาวบ้านแย่งที่ดิน ไม่สนคำสั่งศาล จะเกี่ยวข้าวตัวเองต้องพึ่งตำรวจ 

อลหม่านชาวบ้านแย่งที่ดิน ไม่สนคำสั่งศาล จะเกี่ยวข้าวตัวเองต้องพึ่งตำรวจ

ลุงวัย 55 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เดือดร้อนหนัก จะเข้าไปเกี่ยวข้าวตัวเอง โดนปักป้ายห้ามเข้า ต้องจ่าย 5 พันจึงจะเกี่ยวได้ เจ้าตัวทุกข์หนัก คำสั่งศาลชัดเจนที่ดินเป็นของตนและให้เกี่ยวข้าวได้ อีกคนไม่ยอมอ้างศาล ”สั่งผิด” ถ้าเกี่ยวแจ้งจับ อลหม่านกลางทุ่งนาต้องวิ่งเอาคำสั่งศาลไปพึ่งตำรวจลงประจำวัน

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะรถเกี่ยวข้าวไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้าวในที่นาของตัวเองได้เพราะมีคนเอาป้ายมาติดห้ามเข้า

จากการตรวจสอบ ที่บ้านพูนสุข หมู่ 6 ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ พบนายแหลม อายุ 55 ปี อยู่ที่หมู่ 7 ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ ถือคำสั่งศาลจังหวัดนางรอง ยืนรอผู้สื่อข่าวเพื่ออยากจะชี้แจงและขอความเป็นธรรม

Advertisement

นายแหลมเล่าว่า ที่ดินแปลงนี้เนื้อที่ 3 ไร่ 98 ตร.ว. (หลักฐานเป็นที่จับจองตามโครงการของรัฐ) ตนกับครอบครัวทำกินมานาน ต่อมานายนกน้อย น้องชายตัวเองไปแต่งงานกับนางสมปอง ศรีผดุง ซึ่งที่ดินได้แบ่งแยกกันทำกินชัดเจน หลังจากนั้นได้มีปัญหาเรื่อยมา เพราะนางสมปองคือน้องสะใภ้ พยายามจะมายึดที่ดินที่ตนทำกินอยู่เป็นของตัวเอง ร้องเรียนไปทุกหน่วยงานแต่ไม่สำเร็จถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาลจะยึดเอาที่ดินของตน

ต่อมา ศาลได้ตัดสินให้ที่ดินเป็นของตน นางสมปองยังไม่ลดละ ร้องไปทุกหน่วยงาน ทั้งที่ดินอำเภอ, ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ, ฝ่ายปกครองอำเภอ และมาฟ้องศาลรอบ 2 เพื่อต้องการยึดที่ดินผืนนี้ ศาลได้ยืนยันมาอีกครั้งว่าที่ดินผืนนี้เป็นของตน แต่สุดท้ายปีนี้ยังเอาป้ายมาปักห้ามเข้าไปเกี่ยวข้าว หากเข้าไปต้องจ่ายเงิน 5,000 บาท

โดยระหว่างนายแหลมกำลังให้ข้อมูลนักข่าวอยู่นั้น นางสมปอง อายุ 55 ปี อยู่ที่ซอยโพยาง ต.ถนนหัก อ.นางรอง ผู้ที่เอาป้ายมาปักทางเข้าที่นาได้เดินทางมาถึงพร้อมกับแย่งชี้แจงผู้สื่อข่าว

นางสมปองบอกว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของตนกับสามี คือน้องของนายแหลม ทำกินมานาน สาเหตุที่ศาลตัดสินให้ที่ดินเป็นของนายแหลม ที่จริงแล้วที่ดินของนายแหลมเป็นแปลงที่ 274-275 แต่แปลงนี้เป็นแปลงที่ 263 ยืนยันหากจะเข้าไปเกี่ยวข้าวจะต้องจ่ายมา 5,000 บาท เป็นค่าละเมิด ถ้าฝ่าฝืนจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายแหลมฐานบุกรุก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์วุ่นวายดังกล่าวทำให้นายแหลมตัดสินใจนำหมายศาลที่ตัดสินแล้วไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อจะทำการเกี่ยวข้าว ขณะ นางตรี อายุ 63 ปี เจ้าของรถเกี่ยวข้าว ยืนยันจะบุกเข้าไปเกี่ยวแน่นอนเพราะคำสั่งศาลชัดเจนแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image