ชาวบางระจันร้อง ‘สายไหมต้องรอด’ คดีไม่คืบ ปมถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกับพวกรุมทำร้ายจนตาบอด 

ชาวบางระจันร้อง “สายไหมต้องรอด” คดีไม่คืบ ปมถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกับพวกรุมทำร้ายจนตาบอด

นายประเจิด อายุ 57 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 (หมู่บ้านบางคณฑี) ตำบลสิงห์ อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด” กรณีถูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกับพวกรุมทำร้ายร่างกาย ทุบตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตาขวาบอดสนิท แขนซ้ายหัก 2 ท่อน ฐานกะโหลกแตก ผ่านมาเกือบ 6 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยัง หมู่บ้านบางคณฑี เป็นถนนเข้าหมู่บ้าน เพื่อตรวจสอบความคืบหน้า แต่ไม่พบ นายประเจิด บ้านถูกปิดเงียบ ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายอนันต์ (พี่ภรรยาของนายประเจิด) อายุ 61 ปี และ นางชฎาพร (น้องสาวของนายอนันต์ ) อายุ 51 ปี ญาติของนายประเจิด ซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียง โดยนายอนันต์เล่าว่า นายประเจิดโดนทำร้ายร่างกาย เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ผ่านมาเกือบ 6 เดือนแล้ว แต่คดีเงียบ ผู้ทำร้ายคือ นายสมชาย  และ นายพรชัย  2 พ่อลูก โดยนายพรชัยมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลสิงห์ อำเภอบางระจัน

ด้าน นางชฎาพรเล่าว่าพี่สาวของตนคือ นางพนอ ซึ่งเป็นภรรยาของนายประเจิด ระยะหลังๆ นายประเจิดชอบต่อว่า ดุด่าพี่สาวตน และชอบมีปากเสียงอยู่บ่อยครั้ง และนายประเจิด เวลาเมาก็ชอบด่าไปทั่ว จนต่อมาได้ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อทางบ้านได้สอบถามความคืบหน้ากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางระจัน พนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความชื่อ ร.ต.อ.ภูริวัช พิลึก ได้แจ้งว่าให้รอก่อน ตนเองและครอบครัวก็ร้อนใจว่าคดีไปถึงไหนแล้ว ทำไมมันเงียบไป ส่วนคู่กรณีก็เป็นญาติๆ กัน อยู่หมู่บ้านเดียวกันสำหรับสาเหตุที่ทำให้นายประเจิดถูกทำร้าย ญาติๆ ไม่มีใครทราบจริงๆ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายสมชาย และนายพรชัย โดยนายสมชายกล่าวว่า นายประเจิดมาหาเรื่องพวกตนโดยการด่าท้าทายตรงบริเวณปากทางเข้าบ้าน และมีอาการเมาสุรา โดยนายสมชายเล่าต่อว่า นายประเจิดมาด่าหาเรื่อง 3 ครั้งแล้ว มีคืนวันที่ 5 มิ.ย. 65, วันที่ 10 มิ.ย. 65 และวันที่ 13 มิ.ย. 65 ซึ่งเป็นวันเกิดเรื่อง ตนทนไม่ไหวเพราะด่าถึงโคตรเหง้าเหล่ากอ ตนจึงเดินไปหน้าบ้านถามนายประเจิดว่าด่าตนเพราะอะไร ต่อจากนั้นก็มีการถกเถียงกันชุลมุน นายประเจิดได้หยิบอาวุธมีดที่อยู่หน้ารถออกมา และใช้ปลอกมีดขว้างมา แต่ตนใช้มือปัดปลอกมีดไปได้ หลังจากนั้นนายประเจิดก็วิ่งมาไล่ฟัน ตนจึงหยิบไม้ข้างทางฟาดนายประเจิดไป 3 ครั้ง จนนายพรชัย ลูกชายได้เข้ามาห้าม ส่วนสาเหตุที่เกิดเรื่อง นายสมชายคิดว่านายประเจิดน่าจะมีอาการหลอน เพราะกล่าวหาว่าตนไปว่านายประเจิดดูดม้า ทั้งที่ตนไม่เคยคุยกับนายประเจิดเลย

ADVERTISMENT

ด้าน นายพรชัย ลูกชาย นายสมชาย ได้เล่าให้ฟังว่าวันเกิดเหตุนั้น นายประเจิดมาด่ากราดคนในบ้าน โดยจอดรถไว้ที่ริมถนนก่อนทางเข้าบ้าน ได้ตะโกนท้าพ่อ ด่าพ่อ บอกว่า มึงแน่จริง มึงออกมาเลย พ่อเลยออกไปเพื่อไปถามว่าที่มันมาด่าเนี่ยเราไปทำอะไรให้มัน จากนั้นตนก็เดินเข้าไปในบ้าน ซักพักได้ยินเสียงคนตีกันตรงถนนหน้าบ้าน จึงจะเข้าไปห้าม แต่นายประเจิดใช้มีดแทงมาที่ท้องแต่ตนหลบทัน และใช้มีดฟันตรงต้นขาตน ตนจึงใช้เท้าถีบนายประเจิดจนล้ม แล้วนายประเจิดก็หนีไป โดยทิ้งรถ จยย.ไว้ และตนจึงได้โทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนนายวิโรจน์รัตน์ ชัยสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.สิงห์ อ.บางระจัน เล่าว่า ได้รับแจ้งเหตุจากผู้ช่วย ก็ได้รีบมา แต่พอมาถึงก็ไม่เจอคู่กรณีแล้ว ส่วนสาเหตุที่มีเรื่องกันน่าจะเป็นเพราะ นายประเจิดมีพฤติกรรมที่ชอบเมาแล้วระแวงชอบด่าคนอื่นไปทั่ว

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม ร.ต.อ.ภูริวัช พิลึก พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบางระจัน ว่าคดีนี้เป็นอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เล่าว่าวันเกิดเหตุ นายประเจิดได้มาแจ้งความว่า ขณะขี่รถ จยย. มาตามถนนจนผ่านหน้าบ้านนายสมชาย กับนายพรชัย แล้วถูกดักเอาไม้ตีหัว พอเขาจอดรถก็เอาไม้ตีซ้ำเขาอีกจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนสาเหตุสอบถามพยานทราบว่า ทั้งสองฝ่ายเคยมีเรื่องกันมาก่อน ในส่วนของความล่าช้านั้นเป็นเพราะห้วงเวลาเรื่องของการรักษา และดูว่าอาการสาหัสขนาดไหน และต้องรอใบรับรองแพทย์ ตอนเกิดเรื่องฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสอบสวนทำงานหาข่าวและพยานกันตลอด และยังมีการประชุมกันคุยกันเรื่องฐานความผิดในข้อหาพยายามฆ่าหรือการทำร้ายสาหัส ถ้าเป็นการทำร้ายสาหัสก็ต้องรอใบรับรองแพทย์ และต้องรอดูอาการว่าเขาให้พักกี่วัน ตาที่บาดเจ็บในตอนแรกของนายประเจิด จะบอดไหม ที่ช้าก็เพราะเรื่องของทุพพลภาพในส่วนของสำนวนทำตั้งแต่ต้น และสอบปากคำผู้กล่าวหา พยาน ไว้เรียบร้อยแล้ว และในขณะนี้ได้แจ้งข้อหาผู้กระทำผิดในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเพราะพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่ทำนั้นสามารถเล็งเห็นผลได้ แต่เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ก็ต้องรวบรวมสำนวนส่งอัยการเพื่อดำเนินคดีต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image