ตร.ตั้ง3ปมยิงถล่มบ้าน‘ทรงศักดิ์’ ผู้ช่วยเลขาฯรมว.คมนาคม
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่บ้านเกิดเหตุบ้านของนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อายุ 61 ปี ริมถนนทางหลวงสายเอเชียฝั่งขาล่อง จ.นครสวรรค์ คืนวันที่ 23 พ.ย.65 ที่ผ่านมา จนทำให้ผนังกำแพงหน้าบ้าน กระจกหน้าต่าง มีรูถูกกระสุนปืนเจาะหลายนัดได้รับความเสียหายหลายจุด เบื้องต้นตำรวจตั้งปม ขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องการเมือง
ล่าสุดวันที่ 25 พฤศจิกายนผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.ชาญวิทย์ กนกนาก ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อม พ.ต.อ.โกสิต กาญจนะโกมล ผกก.สภ.พยุหะคีรี และทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด ทีมสืบสวน สภ.พยุหะคีรี เจ้าหนาที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจาก ภูธรภาค 6 ได้ร่วมกับประชุมสรุปความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านพักของนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมกับวางแนวทางในการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.ชาญวิทย์ กนกนาก ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ กล่าวว่า คดีนี้ เป็นเหตุพยายามฆ่า และการใช้อาวุธปืน หลังจากได้ลงพื้นที่และตรวจสอบข้อมูลจากนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านบอกว่า ขณะเกิดเหตุนั้นมีเพียงคนงานที่ดูแลบ้านอยู่ส่วนนายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย และครอบครัวไม่ได้อยู่ที่บ้านและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย โดยในเบื้องต้น จากการที่เจ้าหน้าที่ลงเข้าตรวจสอบบริเวณหลังบ้านที่คาดว่าเป็นจุดยิง พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่จำนวน 5 ปลอก ซึ่งเป็นปลอกกระสุนปืนลูกซอง พร้อมหมอนรองกระสุน จึงสันนิษฐานไว้ คนร้ายน่าจะมาแอบซุ่มอยู่ที่บริเวณข้างๆ บ้าน แต่ยังไม่แน่ชัดว่า คนร้ายต้องการจะยิงขู่ หรือประสงค์จะทำร้ายร่างกาย
ในวันนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานทั้งจาก ภ.จว.นครสวรรค์ และภาค 6 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของนายทรงศักดิ์อีกครั้ง เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะการตรวจสอบวิถีกระสุนจากที่ยิงมาจากด้านใด ส่วนงานฝ่ายสืบสวน ขณะนี้ กำลังกระจายกำลังกันหาเบาะแส พร้อมกับไล่ตรวจภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ รวมถึงสืบหาข่าวกลุ่มคนร้าย ที่มีพฤติกรรมมักใช้อาวุธปืนลูกซอง และชอบก่อเหตุในลักษณะใกล้เคียงกัน นำประวัติมาเปรียบเทียบกับข้อมูลเหตุเกิดที่บ้านของนายทรงศักดิ์
พล.ต.ต.ชาญวิทย์ กล่าวต่อว่าประเด็นสาเหตุที่ตั้งไว้ขณะนี้ มี 3 ประเด็นคือ 1 เรื่องการเมือง 2.ความขัดแย้งส่วนตัว และ3 สร้างสถานการณ์ โดยในประเด็นสุดท้ายนี้ ทางชุดคลี่คลายคดีจะรีบเร่งหาหลักฐานในอันดับแรก หากไม่พบว่ามีเรื่อการสร้างงสถานการณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง จะตัดเหลือไว้แค่ 2 ประเด็น โดยคาดว่าจะได้ผลสรุปภายในสัปดาห์หน้า และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ก็พอจะมีเบาะแสของคนร้ายบ้างแล้ว ซึ่งคดีนี้ จะสามารถนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
