โดนกันเยอะ!! เตือนภัยสิงห์รถบรรทุก โจรอาละวาดขโมยแบตเตอรี่ทั้งกลางวันกลางคืน
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพชายวัยรุ่น สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำแบบมีฮู้ด ขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีแบตเตอรี่ จำนวน 2 ลูก วางซ้อนกันอยู่ด้านหน้ารถ ผ่านไปตามถนนสายวัดสะแก-วัดโคกช้าง
นายขวัญชัย อายุ 37 ปี ผู้เสียหายที่จอดรถยนต์หัวลากไว้ริมถนนสายวัดสะแก-วัดโคกช้าง ม.9 ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกคนร้ายมาขโมยแบตเตอรี่ จำนวน 2 ลูกไป ขณะจอดรถห่างจากบ้านไม่ถึง 50 เมตร เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 พฤศจิกายน ได้ยินเสียงเหมือนมีใครทำอะไรอยู่ที่รถ ยังไม่ทันได้ออกมาดู จนเวลาผ่านไปไม่นานอออกมาทิ้งขยะพบว่า
แบตเตอรี่ หายไปจำนวน 2 ลูก โดยคนร้ายใช้วิธีการงัดจนฝาครอบแตก แล้วงัดขั้วแบตออก แล้วยกแบตเตอรี่จำนวน 2 ลูกไป จึงรีบไปขอดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนพบว่าคนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์สีแดง มีแบตเตอรี่ 2 ใบวางซ้อนกันหน้ารถเอาขาหนีบไว้ หลบหนีไป
ส่งผลให้ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนเพราะเป็นรถของบริษัทจะต้องหาเงินไปซื้อแบตเตอรี่รถมาใส่ใหม่ถึง 2 ลูก ลูกละ 8,000 บาท เป็นจำนวนเงิน 16,000 บาท จึงได้นำเรื่องราวทั้งหมดโพสต์ลงโซเชียลเพื่อเตือนภัยและบอกสิงห์รถบรรทุกว่า ช่วงนี้ให้ระมัดระวังคนร้ายตระเวนรักแบตเตอรี่รถยนต์ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายแล้ว ส่วนตนเองถ้ามาเปลี่ยนใส่แบตเตอรี่ใหม่ก็คงจะต้องใส่โซ่หรือล็อกกุญแจเพื่อป้องกันการถูกขโมยจึงฝากบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนร้ายก่อเหตุขโมยแบตเตอรี่รถบรรทุก 6 ล้อ ของนางสาวฐิติภัทรา เพียสา อายุ 32 ปี ที่จอดเอาไว้ริมถนนภายในชุมชน ม.2 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
นางสาวฐิติภัทราเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้จอดรถบรรทุก 6 ล้อ ไว้ริมถนนหน้าบ้าน เป็นประจำทุกวันและเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 พฤศจิกายน ตนเองพร้อมกับแฟนเตรียมที่ขับรถออกไปทำงาน พบว่าแบตเตอรี่ของรถถูกคนร้ายงัดขโมยเอาไปจำนวน 2 ลูก มูลค่าประมาณ 10,000 บาท ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงกลางคืนมีคนร้าย 2 คน ใช้ไฟฉายแบบคาดที่ศีรษะเข้ามาก่อเหตุงัดเอาแบตเตอรี่หลบหนี
ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมากยังไม่มีเงินไปซื้อแบตเตอรี่ลูกใหม่ มาใส่ที่รถเพื่อขับไปทำงานรับจ้างบรรทุกของ คาดว่าน่าจะเป็นมืออาชีพสวมใส่ถุงมือและไม่ใส่รองเท้าเพื่อไม่ให้มีลายนิ้วมือหรือร่องรอยไว้ให้ตาม และไม่ยอมตัดสายไฟใช้กุญแจไขเหลือทิ้งไว้แค่ฝาครอบแบตเตอรี่ให้ดูต่างหน้า จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อให้ติดตามตัวคนร้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ พร้อมภาคี ชี้การปลูกป่า ปลูกคน ทางออกของไทยที่จะบรรลุเป้าหมายตามข้อตกลงปารีส
- โตเกียวมารีนประกันชีวิตร่วมส่งกำลังใจช่วยภัยน้ำท่วม
- เอาใจสายเฮลธ์ตี้ SX2024 ชวนดูแลสุขภาพกาย-ใจยั่งยืน เตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลง
- สธ.เผยยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติ 9 จว. สะสม 19 ราย กางแผนรับมือ 3 กลุ่มจังหวัด