ชายอ้างเป็นทหารยศพลตรี เมากร่าง สั่งหนุ่มวิดพื้นในร้านเหล้า ไม่ทำตามปรี่ตบหน้า

ชายอ้างเป็นทหารยศพลตรี เมากร่าง สั่งหนุ่มวิดพื้นในร้านเหล้า ไม่ทำตามปรี่ตบหน้า ซ้ำขู่ถ้าเจออีกเอาตาย

 

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก หลังจากมีการเผยแพร่คลิป เหตุการณ์ที่ลูกค้ากลุ่มหนึ่งประมาณ 10 คน นั่งรับประทานอาหารกันที่ร้านเหล้า บริเวณใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา แล้วถูกชายวัยกลางคนรายหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นทหารยศพลตรี พร้อมลูกน้องคนติดตาม เมาสุราเข้ามาหาเรื่อง ด้วยการชี้นิ้วสั่งให้คนในโต๊ะวิดพื้น ฐานไม่ให้ความเคารพนายทหาร แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่ยอมทำตามคำสั่ง จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ก่อนชายที่อ้างตัวเป็นนายทหาร จะเข้ามาตบหัวผู้เสียหายชายคนหนึ่งในโต๊ะและเข้ามาล็อกคอเพื่อจะพาออกไปเคลียร์นอกร้าน จนทำให้สร้อยคอทองคำขาด เจ้าของร้านและพนักงานร้านที่เห็นเหตุการณ์จึงเข้าห้ามปราม จนลูกน้องของชายคนดังกล่าวจะพากลับออกจากร้านไป ชายคนดังกล่าวยังได้ขู่อาฆาตเอาชีวิตไว้ด้วยว่า “ถ้า-ูมาเจอพวกมึงที่ร้านนี้อีก พวก-ึงตาย”

โดยหลังเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียหายได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ มาช่วยระงับเหตุเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในเวลาต่อมา ในช่วงเวลา 03.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม

ต่อมา เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 4 ธันวาคม น.ส.ธัชสุภา หรือแพท อายุ 33 ปี และนายเอกไท หรือเอก อายุ 33 ปี สองในกลุ่มผู้เสียหาย ได้เดินทางลงพื้นที่ร้านเหล้าแซ่บเจริญ ที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อชี้จุดเกิดเหตุในร้านให้กับตำรวจชุดสืบสวน เร่งติดตามตัวชายผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว

Advertisement

น.ส.ธัชสุภา หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกข่มขู่ กล่าวว่า ในคืนวันที่เกิดเหตุตนกับเพื่อนๆ ประมาณ 10 คน ได้นัดสังสรรค์มากินข้าวดื่มกินกันที่ร้านแห่งนี้ เนื่องจากชอบบรรยายกาศและมานั่งที่ร้านนี้เป็นประจำ ประกอบกับมีเพื่อนเป็นนักดนตรีมาเล่นที่ร้านนี้ด้วย โดยในระหว่างที่นั่งดื่มกินจนกระทั่งร้านปิดแล้ว ก็ถูกชายวัยกลางคนสวมเสื้อคอปกสีแดงสวมหมวกแก๊ป ซึ่งลักษณะเหมือนมึนเมาสุรา เดินตรงเข้ามาหาเรื่องเพื่อนผู้ชายในโต๊ะ ด้วยการออกคำสั่งให้เพื่อนชายลุกจากเก้าอี้ ออกมาวิดพื้นในร้าน ทำให้ตนกับเพื่อนผู้หญิงในกลุ่ม รู้สึกไม่พอใจเห็นว่าชายคนดังกล่าวมีสิทธิ์อะไร มาออกคำสั่งให้คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนวิดพื้นในร้านอาหารแบบนี้ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจพยายามเดินเข้ามาหาเรื่องเพื่อนชายในโต๊ะ

น.ส.ธัชสุภากล่าวต่อว่า ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นนายทหารยศพลตรี ก่อนจะปรี่เดินเข้าไปตบหน้าเพื่อนชายของตน 1 ครั้งและพยายามจะล็อกคอเพื่อนชายของตนออกไปนอกร้าน โดยมีลูกน้องคนติดตามของเขากับทางเจ้าของร้านพยายามช่วยห้ามแต่ไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าวยังคงพยายามเดินเข้ามาหาเรื่องคนในกลุ่มเป็นระยะ พร้อมกับพูดจาข่มขู่ให้พวกตนระวังตัวเอาไว้ “ถ้า-ูเจอพวก -ึงที่ร้านนี้อีกที พวก-ึงตาย” ซึ่งหลังเกิดเหตุพวกตน จึงได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนที่ชายคนดังกล่าวกับลูกน้องจะเดินทางกลับขึ้นรถไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

Advertisement

น.ส.ธัชสุภากล่าวอีกว่า ต่อมาพวกตนเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าวแล้ว เพราะมีสร้อยคอทองคำของเพื่อนขาด ถูกตบหน้ากับล็อกคอ และสายคล้องแมสก์ยังบาดคอเพื่อนตนด้วย และยังถูกขู่เอาชีวิตไว้ จึงได้นำคลิปที่ถ่ายและกล้องวงจรปิดของร้านร้องเรียนไปยังเพจข่าวแห่งหนึ่งเพื่อให้ช่วยเหลือ เพราะกังวลใจว่า หากชายคนดังกล่าวเป็นนายทหารมียศตามที่กล่าวอ้างจริง ก็จะมีอาวุธพกติดตัว พวกตนเป็นแค่ประชาชนธรรมดาไม่มีอาวุธพกพา จึงกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายตามมา

ด้านนายเอกไท หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ลักษณะของชายคนดังกล่าวเหมือนคนเมาสุรา ตรงเข้ามาหาเรื่องเพื่อนของตนที่โต๊ะ โดยเดินตรงเข้ามาพยายามจะกระชากคอเพื่อนตน ตนจึงได้ยกแขนกันเอาไว้ จึงถูกผลักและโต้เถียงกันขึ้น ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะพูดข่มขู่มาว่า “เดี๋ยวพวก-ึงก็รู้จักว่า-ูเป็นใคร” ทั้งๆ ที่พวกตนก็ไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อน และไม่มีใครในโต๊ะเป็นทหารแม้แต่คนเดียว เคยแต่ได้ยินมาจากเพื่อนที่เคยเป็นอดีตหุ้นส่วนร้านอาหารแห่งนี้ว่า ชายคนนี้มักจะมาดื่มกินที่ร้านแห่งนี้เป็นประจำ พร้อมกับลูกน้องคนติดตาม และมักจะชอบหาเรื่องกับลูกค้าโต๊ะอื่นไปทั่ว โดยอ้างตัวเป็นนายทหารยศพลตรี จนกระทั่งตนกับกลุ่มเพื่อนมาเจอกับตัวเอง

ต่อมา น.ส.ธัชสุภา และนายเอกไท ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าในคดีเนื่องจากมีภาพจากกล้องโทรศัพท์มือถือ ที่ถ่ายเหตุการณ์เห็นหน้าตาและพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวได้ชัดเจน โดย พ.ต.อ.เมษนนท์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นหลังได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายแล้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว โดยพบทะเบียนรถเก๋งที่ชายคนดังกล่าวกับผู้ติดตามขึ้นรถกลับไปหลังเกิดเหตุแล้ว กำลังอยู่ในระหว่างการติดตามตัวมาทำการสอบสวนต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image