ตร.แจง ออกหมายเรียกเด็กกินกล้วยหวีละหมื่น ตามขั้นตอน จ่อเรียกอีก 4 ราย หากเจ้าทุกข์ยืนยัน
พี่สาวหญิงวัย 33 ปี ชาว อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์ ที่แจ้งจับเด็กอายุ 5-12 ปี รวม 8 คน ฐานทำให้เสียทรัพย์และ บุกรุก น้องสาวโดนกลั่นแกล้งจริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร ขณะตำรวจชี้ทำไปตามกระบวนการของกฎหมาย อีก 4 คนที่เหลือหากเจ้าทุกข์ยืนยันก็จะออกหมายเรียกอีก
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม จากกรณีเด็กนักเรียนอายุ 5-12 ปี รวม 8 คน ที่ถูกนางสาวกุ้ง อายุ 33 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แจ้งความจับฐานบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ จนกระทั่งมีหมายเรียกจาก พนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย ส่งไปถึงบ้านเด็ก เมื่อวันที่ 30 พ.ย.และมีการไกล่เกลี่ยจ่ายเงินค่าเสียหายคนละ 2,000 บาท ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
เหตุการณ์ดังกล่าวชาวเน็ตต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นสองฝั่ง กลุ่มหนึ่ง เห็นใจสาว 33 ปี ที่มีคนบุกเข้าไปรื้อข้าวของภายในบ้านได้รับความเสียหาย และกล้วยที่ซื้อไว้กินหายไป 1 หวี อีกกลุ่มหนึ่ง ออกมาแสดงความเห็นใจเด็ก ผู้ใหญ่ทำเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะหมายเรียกของตำรวจที่ระบุชื่อเด็กชัดเจน ไม่คำนึงถึงจิตใจของเด็ก และสมควรหรือไม่ที่ออกหมายเรียกเด็กให้มารับข้อกล่าวหา
นางสาวกิ๊ก อายุ 36 ปี พี่สาว นางสาวกุ้ง คนแจ้งความดำเนินคดีเด็ก ได้ออกมาเปิดเผยว่า วันที่บ้านน้องสาวโดนปาไข่ และโดนเทน้ำยาซักผ้า เอกสารต่างๆ ภายในบ้านเสียหาย รวมถึงกล้วยที่หายไป เป็นวันเดียวกัน แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือเด็กหรือผู้ใหญ่ ซึ่งคาดว่าโดนกลั่นแกล้ง ทำให้น้องสาวเกิดความเครียด และหาตัวคนก่อเหตุจนกระทั่งมีเด็กมายอมรับดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถาม พ.ต.ท.ศิริชัย เจริญศิริ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย เกี่ยวกับการออกหมายเรียก ได้รับคำตอบว่า การออกหมายเรียกทำไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ถ้ามีหลักฐาน เชื่อได้ว่ามีการกระทำผิด ก็ต้องออกหมายเรียกตามกระบวนการ ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร ตอนนี้ได้ออกหมายเรียกเด็กไปแล้วจำนวน 4 คน ส่วนเด็กที่เหลืออีก 4 คนที่ยังไม่ได้ออกหมายเรียก หากผู้เสียหายคือ นางสาวกุ้ง มีความประสงค์จะดำเนินคดี จะต้องออกหมายเรียกอีกเช่นเดียวกัน
