ผู้ว่าฯน่าน สั่งจัดระเบียบรีสอร์ต-ที่พัก บนสะปัน-บ่อเกลือ สำรวจนำขึ้นทะเบียนให้ถูกกฎหมายภายใน 30 ธ.ค.นี้

ผู้ว่าฯน่าน สั่งจัดระเบียบรีสอร์ต-ที่พัก บนสะปัน-บ่อเกลือ สำรวจนำขึ้นทะเบียนให้ถูกกฎหมายภายใน 30 ธ.ค.นี้

จากกรณี ที่จังหวัดน่าน ได้สนธิกำลัง ตำรวจ กับ ฝ่ายปกครองอำเภอบ่อเกลือ พร้อมด้วยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.7 (บ่อเกลือ) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ กรมป่าไม้ นำหมายศาลจังหวัดน่านเข้าตรวจค้น ที่รี starwall sapan สอร์ท ไร่กำแพงดาว ในแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต สะปัน-บ่อเกลือ แยกห้วยหมีห้วยโทน บ้านนาโป่ง หมู่ 1 ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน หลังฝ่าฝืนประกาศ เป็นพื้นที่ถูกตรวจยึดดำเนินคดีอาญาและยึดทรัพย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เนื่องจากได้ก่อสร้างบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวจำนวน 12 หลัง.รุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยภูคาและป่าผาแดง เนื้อที่ 3 ไร่กว่า และได้ประกาศห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่หรือกระทำการด้วยการกระทำใดๆ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย แต่ผู้ประกอบการ ได้ฝ่าฝืนประกาศ ยังคงเปิดบริการให้แก่นักท่องเที่ยว และดำเนินการขายห้องพักในราคา ห้องละ 5,000-10,000 บาท ให้กับนักท่องเที่ยวผ่านสื่อโซเชียล อีกทั้งยังมีการนำดาราสาวชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เข้าพักที่รีสอร์ต และมีการนำชื่อบุคคลมีชื่อเสียงในวงการต่างๆมาแอบอ้างเป็นหุ้นส่วนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

โดยมีการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย และตรวจยึดของกลางรวม 11 รายการ พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันสร้าง แผ้วถาง เผาป่าและยึดถือครอบครองหรือกระทำการด้วยประการใดๆ ซึ่งมีความผิดตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดวันที่ 11 ธันวาคม 2565 นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า จังหวัดน่านได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่พักรีสอร์ตที่ หมู่บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ รวมทั้งที่ ตำบลสกาด อ.ปัว ซึ่งพบมีปัญหาเช่นกัน หลังจากที่มีกรณีร้องเรียนทั้งเรื่องเต็นท์ที่พักขึ้นรา และ กาแฟแพง มาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยได้มีการประชุมหามาตรการและวางแผนตรวจสอบติดตามเป็นระยะ ทั้งเรื่องการบุกรุกลำน้ำ บุกรุกที่ดินพื้นที่ป่าสงวนฯ พื้นที่สาธารณะ การไม่ได้รับอนุญาตปลูกสิ่งก่อสร้าง ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร มาตรการเรื่องขยะและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีกฎหมายหลายฉบับมาประกอบเพื่อจัดระเบียบให้ถูกต้อง ทั้งในเชิงการป้องกันและปราบปราม และ เชิงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่นชุมชน

ทั้งนี้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ฯ โดยส่วนใหญ่พบว่านายทุนที่มาลงทุนในพื้นที่ ส่วนหนึ่งมาจากการซื้อขายที่ดินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากทั้งผู้ขายและผู้ซื้อไม่มีความรู้ความเข้าใจ และไม่รอบคอบ เรื่องเอกสารสิทธิ์ การใช้ประโยชน์พื้นที่ และบางพื้นที่มีกฎหมายห้ามชัดเจน

Advertisement

โดยขณะนี้ได้สั่งการให้นายอำเภอทั้งสองพื้นที่ เร่งรัดผู้ประกอบการให้มาขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใน 30 ธันวาคม นี้ ส่วนในบางรายยังอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข ได้ผ่อนผันให้เปิดดำเนินกิจการได้ไปก่อนในช่วงไฮซีซั่นนี้ เพื่อไม่ให้กระทบด้านการท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากนั้นจะได้มีการติดตามตรวจสอบต่อเนื่อง เพื่อเร่งรัดแก้ไขให้ถูกต้องและมาขึ้นทะเบียน และในส่วนที่กระทำความผิดชัดเจนก็มีการตรวจยึดและส่งฟ้องดำเนินคดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image