เจ้าของกิจการขนส่งจับไต๋ลูกน้อง ที่แท้ ‘ปั๊ม’ ออกบิลเกินจริง ซ้ำมีค่าส่วนต่าง งงทำได้หรือ?

หนุ่มเจ้าของกิจการขนส่งจับพิรุธลูกน้อง ทุจริตบิลน้ำมันเกินจำนวนมาก นานเกือบ 3 ปี สูญกว่า 7 แสนบาท เผยปั๊มน้ำมันตัวดี คิดค่าส่วนต่างจากที่เติมจริงร้อยละ 10 วอนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปั๊ม

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เจ้าของกิจการขนส่งแห่งหนึ่ง เดินทางมาที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนจะเปลี่ยนใจเดินทางกลับ หลังเข้าปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงครู่เดียว

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายเอกได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้ปลอมตัวขับรถกระบะเหมือนพนักงานขับรถทั่วไป เข้าไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งย่านถนนกาญจนาภิเษก อ.บางบัวทอง โดยตนเติมน้ำมัน 1,000 บาท จากนั้นพนักงานของปั๊มเดินมาเก็บเงิน จึงแกล้งบอกพนักงานว่าขอเบิกบิลเพิ่มเป็น 1,200 บาทได้หรือไม่ พนักงานปั๊มบอกว่าเบิกบิลเกินจำนวนที่เกินได้ แต่ต้องจ่ายค่าส่วนที่เกินจากเติมจริงร้อยละ 10 บาท จึงตกลงให้พนักงานออกบิล จำนวน 1,200 บาทมาให้ สักพักพนักงานคนดังกล่าวก็นำบิลค่าน้ำมัน จำนวน 1,200 บาทมาให้ พร้อมกับเรียกเก็บเงินค่าบิลที่ออกเกินจริงอีก 20 บาท จึงหยิบเงินจ่ายให้ไป จำนวน 1,020 บาท

นายเอกเปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องปลอมตัวไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งนี้เป็นเพราะ สงสัยมานานแล้วว่าทำไมพนักงานขับรถส่งของบริษัทจะต้องขับรถย้อนไปย้อนมาเพื่อมาเติมน้ำมันที่ปั๊มนี้ทุกวัน ทุกคัน เคยสอบถามเหตุผลได้รับคำตอบว่าปั๊มนี้แถมน้ำ บางรายบอกว่ากับข้าวในปั๊มอร่อย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ซึ่งตนเก็บเรื่องนี้ไว้เพราะช่วงนั้นธุรกิจขนส่งกำลังไปได้ด้วยดี

Advertisement

นายเอกกล่าวว่า เมื่อเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว รถในบริษัทวิ่งรอบลดน้อยลง กลับพบว่ายังคงมีการเบิกบิลน้ำมันในอัตราที่สูงอยู่ โดยลดลงมาเพียงนิดเดียวจากช่วงที่เคยมีงานเยอะๆ ทำให้เริ่มสงสัยมากขึ้น และต้องการหาคำตอบที่ปั๊มน้ำมันแห่งนี้ให้ได้ จนกระทั่งเมื่อวานนี้จึงทราบความจริงว่า ปั๊มน้ำมันแห่งนี้สามารถออกใบเสร็จค่าน้ำมันเกินจำนวนที่เติมจริงได้ แต่ต้องเสียค่าส่วนต่างอัตราร้อยละ 10 บาท ก็จะได้บิลน้ำมันที่เกินจริงไปเบิกเงินกับบริษัทได้

“บริษัทมีรถกระบะส่งของ 4 คัน เฉลี่ยรายเดือน ผมจ่ายค่าน้ำมันรถเดือนละกว่า 50,000 บาท ถ้านำจำนวนเงินที่พนักงานเบิกค่าน้ำมันเกินจริงคันละ 200 บาทต่อวัน จำนวน 4 คัน และนำบิลน้ำมันที่เกินจริงมาเบิกจากผมไปแล้วประมาณ 3 ปี ผมสูญค่าส่วนต่างไปแล้วกว่า 700,000 บาท จึงเดินทางมาปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายเอกระบุ

นายเอกกล่าวอีกว่า หลังปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วยิ่งทำให้คิดหนักเข้าไปใหญ่ เพราะหากแจ้งความดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์กับพนักงานขับรถขนส่งทั้ง 4 คนแล้ว ก็ต้องเสียเวลาเดินทางมาให้ปากคำและยังต้องเสียทีมลูกน้องไปอีกทั้ง 4 คน ซึ่งก็เป็นเรื่องยากที่จะหาพนักงานคนใหม่มาทำหน้าที่แทน ส่งผลกระทบกับธุรกิจที่ทำอยู่ หากอยากจะได้เงินที่เสียหายไปกลับคืนกลับมาก็ต้องทำเรื่องยื่นฟ้องทางแพ่งให้พนักงานทั้ง 4 คนเป็นผู้จ่ายเงินคืน แต่ทั้งหมดยังทำงานกินเงินกับบริษัทตนอยู่ ทำให้คิดหนักว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

Advertisement

“เรื่องนี้มองว่าความผิดแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือพนักงานของบริษัท กับปั๊มน้ำมันที่ออกใบเสร็จค่าน้ำมันได้เกินความจริงจากหัวจ่าย เป็นเรื่องที่ปรบมือข้างเดียวคงไม่ดัง” นายเอกกล่าว

นายเอกกล่าวว่า แม้วันนี้จะตัดสินใจว่ายังไม่แจ้งความเอาผิดกับพนักงานในบริษัท และตนก็เชื่อว่าพนักงานรู้เรื่องแล้วว่าตนรู้ความจริงทั้งหมด และสั่งห้ามไม่ให้พนักงานนำบิลน้ำมันที่ปั๊มแห่งนี้มาเบิกค่าน้ำมันกับตนทุกกรณีแล้ว หากใครยังนำบิลปั๊มนี้มาเบิกจะไม่รับผิดชอบค่าน้ำมันที่เติมมา

นายเอกกล่าวว่า อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาตรวจสอบด้วยว่าการกระทำของปั๊มน้ำมันที่ให้พนักงานออกบิลเกินกว่าจำนวนที่เติมจริง พร้อมเรียกเก็บเงินส่วนต่างร้อยละ 10 บาทนั้น เป็นเรื่องที่ปั๊มทำได้หรือไม่ และเงินส่วนต่างนี้ไปเข้าใคร เข้าข่ายให้ความร่วมมือในการทุจริตหรือไม่ อยากให้ผู้ประกอบการ เจ้าของบริษัทต่างๆ ระมัดระวังกลโกงจากพนักงานในรูปแบบนี้ด้วย เพราะเท่าที่ไปสังเกตในปั๊มพบว่าส่วนใหญ่จะมีรถกระบะ รถขนส่งประเภทต่างๆ เข้ามาใช้บริการมากมายแบบผิดสังเกต จึงไม่แน่ใจว่าที่มีรถมาเติมน้ำมันที่ปั๊มมากกว่าปกติเพราะต้องการให้ออกบิลน้ำมันเกินจริงใช่หรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image