ชาวสวนยาง ‘บึงกาฬ’ โอดราคาร่วงหนัก วอนรัฐดันขึ้น กก.ละ 30-35 บาท
วันที่ 16 ธันวาคม เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดขึ้นชื่อในเรื่องการปลูกยางพาราเป็นอันดับหนึ่งของภาคอีสาน มีพื้นที่กรีดยาง ทั้งที่กรีดได้ และพื้นที่ปลูกใหม่กว่า 1.2 ล้านไร่ เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวของทุกปี เป็นโอกาสทองของเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งเกษตรกรใน 8 อำเภอ ส่วนใหญ่ปลูกยางพาราเป็นอาชีพหลักแทนการปลูกข้าว จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นเหมาะกับต้นยางพารา ทำให้ต้นยางสมบูรณ์ให้น้ำยางมาก ในช่วงนี้เกษตรกรกรีดยาง 3-4 มีด จะได้น้ำยางเต็มถ้วย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอายุและขนาดของต้นยางด้วย
อย่างไรก็ตาม กว่า 80% ของเกษตรกรชาวสวนยาง นิยมขายเป็นยางก้อนถ้วย หรือชาวบ้านเรียกว่าขี้ยาง มากกว่าการขายเป็นยางแผ่น หรือน้ำยางสด เพราะไม่ยุ่งยาก ในช่วงหน้าหนาวนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับชาวสวนยางพาราที่จะได้ปริมาณยางเพิ่มมากขึ้น 1-2 เท่าตัว เวลาขายก็ได้เงินเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
แต่กลับกันราคายางพาราที่ผันผวนในช่วงก่อนปีใหม่ ราคาไม่นิ่ง ขึ้นลงตลอดเวลา โดยราคายางพาราก้อนถ้วยที่รับซื้อในกลุ่มสหกรณ์กองทุนสวนยางตำบลวิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ วานนี้ราคาอยู่ที่ 23.35 บาท/กก.(ยางค้างคืน)
ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวนยางพาราในตำบลวิศิษฐ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ รายหนึ่ง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาราคากิโลกรัมละ 20-21 บาท โดยเฉพาะตัวเองที่รับจ้างกรีดยางให้กับเจ้าของสวนยาง ขายแบ่งเงินกันออกมา ไม่ได้อะไรเลย ได้แต่พออยู่พอกิน ไม่พอเก็บ ขึ้นราคายางมาสัก 30 บาท ก็ยังดี อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือราคา ดันยางพาราขึ้นไปอีก อย่างน้อยๆ กิโลกรัมละ 30-35 บาท ก็ยังดี
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2565 ราคากลางตลาดกลางยางพารา ยางแผ่นดิบอยู่ที่ 43.50 บาท/กก. น้ำยางสดอยู่ที่ 45.40 บาท/กก.
