หนุ่มโรงแรมแสบ ชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะนอนอาบแดด ตำรวจตามรวบคาหอพัก
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 12.15 น. ขณะนอนอาบแดดบริเวณชายหาดบางเนียง หมู่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พ.ต.ท.สุริยา ทองสุวรรณ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เขาหลัก ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ณฐกรณ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พังงาได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ สงพะโสม รอง ผบก.ภ.จว.พังงา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.กก.สส.ภ.จว.พังงาและพ.ต.อ.จิระวัฒน์ สาระรัมย์ ผกก.สภ.เขาหลัก ชุดสืบสวน สภ.เขาหลัก ชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดพังงาเร่งลงพื้นที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาพักผ่อนจำนวนมากทุกปี พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี โดยกล้องวงจรปิดที่ร้านอาหารช่องฟ้าที่อยู่ในขณะปรับปรุงซ่อมแซมร้าน สามารถจับภาพคนร้ายขณะขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไว้ได้ โดยมีนายนายเคลาส์ ดีเตอร์ ออตโต วิ่งไล่กวดตาม
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. นายเคลาส์ ดีเตอร์ ออตโต พักอยู่ที่โรงแรม ใกล้กับหาดบางเนียง ได้เดินมานอนอาบแดดอยู่ที่บริเวณชายหาดบางเนียงเป็นประจำทุกวัน อยู่ไม่ไกลจากที่พัก อยู่ติดกับร้านอาหารช่องฟ้า โดยปูผ้ารองนอนเพื่อนอนอาบแดด พร้อมกับนำทรัพย์สินที่ติดตัวมาด้วยใส่ในถุงพลาสติก โดยคล้องถุงพลาสติกไว้ที่แขนข้างขวาขณะนอนอาบแดด ต่อมาเวลาประมาณ 12.15น.มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 1 คน ได้อาศัยจังหวะที่นายเคลาส์ ดีเตอร์ ออตโต ผู้เสียหายไม่ทันระวัง เดินออกมาจากพุ่มไม้มากระชากถุงพลาสติกสีขาวที่ใส่ทรัพย์สินจากแขนของนายเคลาส์ ดีเตอร์ ออตโต ผู้เสียหายที่ใส่ทรัพย์สินดังกล่าวไว้
ผู้เสียหายรู้สึกตัวจึงได้ยื้อแย่งถุงพลาสติกไว้ ผู้เสียหายยังได้คว้าต้นขาของคนร้ายไว้ แต่คนร้ายก็สามารถวิ่งหลบหนีไปทางร้านอาหารช่องฟ้าที่กำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุง ซ่อมแซม ช่วงเวลาเกิดเหตุไม่มีคนทำงาน โดยผู้เสียหายได้วิ่งติดตามไปคนร้ายไป คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนซอยเรือขุด พร้อมทำการเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าที่ใส่ ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ขณะที่นายเคลาส์ ดีเตอร์ ได้ขอความช่วยเหลือจากคนที่ขับรถผ่านไปมาอยู่บริเวณใกล้เคียง ให้ช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
หลังจากได้รับแจ้ง พ.ต.อ.จิระวัฒน์ สาระรัมย์ ผู้กำกับ สภ.เขาหลักได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของ สภ.เขาหลัก โดย พ.ต.ท.ปฏิวัติ ลิ้มฉุ้น รอง ผกก.สส.สภ.เขาหลักพร้อมชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพังงา ลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุทันที พร้อมประสานขอกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีจนทราบเส้นทางการหลบหนี จนสามารถจับกุมคนร้ายได้เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2565 เวลาประมาณ 15.00 น.ที่ห้องพักพนักงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 3 ต.คึกคัก อ.กั่วป่า จ.พังงา พร้อมทรัพย์ของกลางที่ได้ คือ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ จำนวน 1 เครื่อง , แว่นสายตา จำนวน 1 อัน , เงินสด จำนวน 350 บาท , กางเกงว่ายน้ำสีดำ จำนวน 1 ตัว , กางเกงขาสั้น สีดำ จำนวน 1 ตัว , น้ำดื่ม จำนวน 2 ขวด รวม 6 รายการ คิดเป็นเงินประมาณ 23,320 บาท บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีขาว จำนวน 1 ใบ พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีน้ำเงิน-แดง หมายเลขทะเบียน 1 กฉ 3363 พังงา
จากนั้นร้อยเวรสอบสวน พ.ต.ท.สุริยา ทองสุวรรณ รอง ผกก.(สอบสวน) แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไปโดยใช้ยานหาหนะ หรือรับของโจร”
พ.ต.อ.จิระวัฒน์ สาระรัมย์ ผกก.สภ.เขาหลัก กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ที่ผ่านมา เวลาหลัง 12.00 น. ทางตำรวจ สภ.เขาหลักได้รับแจ้งมีเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ของนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว พร้อมติดตามสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ โดยคนร้ายทำงานคนเดียว ทำอาชีพเป็นพนักงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง จะเห็นได้ว่า ในพื้นที่ของเขาหลัก ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนจำนวนมากเป็นประจำทุกปี เหตุอาชญากรรมต่างๆ เกิดขึ้นน้อยมาก
แต่เมื่อหากมีเหตุเกิดขึ้นเราสามารถดำเนินการจับกุม ช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเรามีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรม เรามีแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่มีสมาชิกหลากหลายอาชีพ อยู่ในกลุ่มที่เราตั้งขึ้นมา สามารถช่วยกันแจ้งข้อมูลให้แก่เจ้าหน้าที่อย่างรวดเร็ว จนสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากพื้นที่เขาหลักมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยเราทำกันอย่างสม่ำเสมอแต่ในช่วงไฮซีซั่น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.เขาหลักได้เพิ่มความถี่ในการออกตรวจตรามากขึ้นเพื่อเป็นการป้องปรามและสร้างความอบอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่
