เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ผู้สูงอายุแห่งชาติปี’58 ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 93 ปี

เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ผู้สูงอายุแห่งชาติปี’58 ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 93 ปี

เมื่อวันที่ 2 มกราคม เพจเฟซบุ๊กของ เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่ รายงานข่าวการสูญเสีย เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ หรือ เจ้ายาย ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่อเช้าที่ผ่านมา สิริอายุ 93 ปี

ขณะที่ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ระบุประวัติ เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ความว่า ณ วันเพ็ญเดือนหก ปีมะเส็ง ที่ 22 พฤษภาคม 2472 เจ้านายฝ่ายเหนือองค์น้อย แห่งคุ้มหลวงริมปิงได้ถือกำหนดขึ้น ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา จึงได้รับนามว่า เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่

เป็นธิดาคนที่ 3 ในจำนวน 4 คน ของ เจ้าราชภาคินัย (เมืองชื่น ณ เชียงใหม่) กับ หม่อมจันทร์เทพย์ ณ เชียงใหม่

ชีวิตในวัยเด็กของเจ้าดวงเดือนได้รับการอบรมอย่างเคร่งครัดในเรื่องมารยาท ฝึกหัดการเรือน อาทิ อาหารคาวหวาน แกะสลัก ทำน้ำอบน้ำปรุง ทำสวน ปลูกต้นไม้ ทำยาสมุนไพร การแสดง ฟ้อนรำ ทำเพลง เพื่อเป็นตัวแทนต้อนรับอาคันตุกะ ตลอดจนแสดงให้งานสาธารณกุศลต่างๆ

Advertisement

นอกจากนั้น ยังมีหน้าที่อ่านหนังสือให้เจ้าพ่อและคนในคุ้มฟังตั้งแต่เด็ก เช่น เรื่องกฎหมาย การแพทย์ สมุนไพร ความรู้รอบตัว ซึ่งเมื่อครั้งเป็นเด็กรู้สึกชีวิตถูกบังคับเข้มงวดไม่เป็นสุขเลย ผิดกับเด็กทั่วไปที่มีเวลาวิ่งเล่นเที่ยวกับหมู่เพื่อน แต่เมื่อเติบโตขึ้นกับตรงกันข้าม รู้สึกว่าตนเองช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้รับการพร่ำสอนขัดเกลาจากเจ้าพ่อเจ้าแม่ เพราะทุกสิ่งล้วนมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตโดยตลอดอย่างคุ้มค่า

จบการศึกษาจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย โรงเรียนวัฒโนทัย (คำเที่ยงอนุสรณ์) โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ และจบ ม.6 จากโรงเรียนดาราวิทยาลัย สมรสกับ คุณพิรุณ อินทราวุธ อาชีพทนายความ เมื่ออายุ 19 ปี มีบุตร 1 คน และธิดา 3 คน

Advertisement

หลังสมรสคุณพิรุณได้เข้าสู่เส้นทางการเมืองโดยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล สภาจังหวัด และสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเจ้าดวงเดือนเป็นภรรยานักการเมืองแล้วก็ไม่อาจหยุดนิ่ง บ่อยครั้งต้องขึ้นรถยนต์ไปต่อม้าหรือช้าง เพื่อแยกเวทีไปช่วยหาเสียงในต่างอำเภอ เมื่อสมัย 60 ปีที่แล้ว นับเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ เพราะเป็นสตรีคนแรกในส่วนภูมิภาคที่มีบทบาททางการเมืองเทียบเท่าบุรุษ

ต่อมา ต้องรับหน้าที่บริหารหนังสือพิมพ์ที่ขายดีที่สุดในจังหวัดคือ “เสียงเชียงใหม่” หนังสือพิมพ์คุณภาพเพราะบรรณาธิการมีจรรยาบรรณสูง วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาด้วยความเที่ยงตรง คารมกล้าแกร่งตรงไปตรงมาไม่หวั่นอิทธิพลใด ภายหลังได้รับ การคัดเลือกให้เป็น อุปนายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคเหนือและอุปนายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาค

ในยุคที่วิทยุและโทรทัศน์เริ่มได้รับความนิยม เจ้าดวงเดือนได้มีโอกาสจัดรายการวิทยุที่มีสาระชี้นำปัญหาสังคม เป็นรายการที่มีสไตล์แตกต่างกันถึง 4 รายการ ด้วยองค์ความรู้ที่หลากมิติรอบด้าน แนวคิดและวิธีนำเสนอเฉียบคม รายการวิทยุเสียงอเมริกา (Voice of America) จึงมอบเหรียญ VOA ให้ในฐานะที่เป็น นักจัดรายการดีเด่น

ปี 2513 สอบเป็นผู้พิพากษาสมทบคดีเด็กและเยาวชนได้ที่ 1 จึงเป็นสตรีคนแรกทางภาคเหนือที่ปฏิบัติหน้าที่นี้ อบรมเด็กเป็นอย่างดีจนได้รับโล่ผู้พิพากษาผู้รักษาความเที่ยงธรรม ปี 2517 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรียกร้องให้สังคมหันมาสนใจร่วมแก้ไขปัญหาที่ถูกซ่อนไว้อย่างจริงจัง อาทิ ปัญหาสตรีถูกตกเขียว หมู่บ้านดอกคำใต้ รณรงค์ให้สตรีสามารถลุกขึ้นมาสร้างกลุ่มและพัฒนาตนเองไปสู่ความเข้มแข็ง ช่วยรณรงค์วางแผนครอบครัวจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสำนักงานเขต สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ภาคเหนือ

นอกจากนี้ ยังมีบทบาทพิทักษ์ความเป็นธรรมให้แก่ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีเด็กไทยอายุ 16 ปี ถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรม 19 ศพ ที่วัดไทยในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เพราะเห็นว่าถูกจับเป็นแพะจึงรณรงค์ด้วยวิธีการและรูปแบบต่างๆ เพื่อหาเงินช่วยสู้คดีนานถึง 16 ปี ศาลจึงตัดสินยกฟ้องว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

เป็นกรรมการ คณะทำงาน มูลนิธิสมาคม สถาบันการศึกษา องค์กร กิจกรรมต่างๆ เป็นอันมาก แต่เรื่องที่ให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อเนื่อง คืองานศิลปวัฒนธรรม เจ้าดวงเดือนไม่เพียงแต่รู้คุณค่าของมรดกวัฒนธรรมไทย-ล้านนา ที่ได้สัมผัสซึมซับมาแต่ครั้งเยาว์วัยเท่านั้น ท่านยังได้คิดพิเคราะห์นำจุดแข็งมาเผยแพร่อย่างเป็นวิถีปฏิบัติ เช่น การพูดคำเมือง แต่งกายด้วยอาภรณ์พื้นเมือง นำการจัดเลี้ยงแบบขันโตกมาประชาสัมพันธ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ทำให้เด็กและเยาวชนภูมิใจในอัตลักษณ์ ส่งผลให้เกิดมาตรฐานบริการ คนต่างชาติ ต่างถิ่นที่มาเชียงใหม่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแบบขันโตกทุกราย เจ้าดวงเดือนฯ นำความก้าวหน้าสู่วงการวัฒนธรรมจังหวัดมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งเป็นผู้ริเริ่มจัดงานไม้ดอกไม้ประดับหรืองานพฤกษชาติจังหวัดจนกระทั่งปัจจุบัน จึงเป็น ประธานสภาวัฒนธรรมคนแรกของจังหวัดเชียงใหม่และของประเทศไทย

ด้านการพัฒนาชุมชนและสังคม ด้วยเห็นว่ายังมีภาวะว่างงานในกลุ่มสตรีหลังฤดูเก็บเกี่ยว จึงเปิดใต้ถุนบ้านเป็นโรงทอผ้า ซึ่งผ้าไหมเป็นผ้าที่งดงามน่าหลงไหลยิ่ง แต่กว่าจะได้เส้นด้ายใยไหมจำเป็นต้องต้มรังฆ่าตัวแม่ทำบาปก่อน ดังนั้น เจ้าดวงเดือนจึงรณรงค์ที่จะอนุรักษ์การทอผ้าฝ้ายลายโบราณและสืบสานเคล็ดวิธีการย้อมสีด้วยวิธีธรรมชาติ ศึกษาจริงจังจนยกมาตรฐานการทอผ้า ขยายผลม่อนดวงเดือนเป็นโรงทอฝ้ายดวงเดือน 2 โรง ต่อยอดเป็นศูนย์อบรมหัตกรรมพื้นเมืองจอมทอง จนได้รับการยกย่องจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นกิจกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าและสร้างงานสร้างรายได้ให้ชาวบ้านไปพร้อมกัน

ตลอดระยะเวลา 86 ปีที่ผ่านมา จากผลงานซึ่งเป็นที่ประจักษ์ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่คนและสังคมในวงกว้างของเจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ สตรีสูงศักดิ์ผู้ได้รับการขนานนามว่า สุภาพสตรีระดับชาติได้อย่างสมความภาคภูมิ เป็นต้นแบบคนดีศรีแผ่นดินและเป็นเพชรน้ำหนึ่งของชาวไทยล้านนา

คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาเห็นชอบให้ประกาศสดุดี เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ เป็น ผู้สูงอายุแห่งชาติ พุทธศักราช 2558 เพื่อบันทึกเกียรติคุณนี้ไว้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมสืบไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับพิธีการทางศาสนาอย่างเป็นทางการยังอยู่ระหว่างการหารือ คาดว่าน่าจะเคลื่อนร่างเจ้าดวงเดือนไปประกอบพิธี ณ วัดพระสิงห์ราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2565 บุคคลใกล้ชิดเจ้าดวงเดือนบางรายได้โพสต์ภาพและประวัติเจ้าดวงเดือนเป็นระยะ พร้อมแจ้งข่าวการป่วยอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเช้านี้เจ้าดวงเดือนถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อเวลา 07.25 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image