เชียงคำสั่งจับตา หมอกควัน-ไฟป่า หลังพบสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ย้ำฮอตสปอตไม่รุนแรง ด้าน ผกก.ประกาศเตือนมือเผาจะถูกดำเนินคดี พร้อมตบรางวัลคนแจ้งเบาะแส
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์หมอกควัน-ไฟป่าในพื้นที่ต่างๆ ของ จ.พะเยา พบว่าหมอกคันไฟเริ่มหนาในบางพื้นที่ โดยทางส่วนราชการนำโดย ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าฯพะเยา ได้สั่งการเข้มในการตรวจจับเฝ้าดูฮอตสปอตที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ ได้ ทั้งนี้ในพื้นที่ของ อ.เชียงคำ นายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำ ได้สั่งการให้ผู้นำชุมชนทุกพื้นที่ได้ประกาศในเรื่องของห้ามเผาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการประชุมประจำเดือนของแต่ละหมู่บ้าน
นายธวัชกล่าวว่า หลังจากการประกาศห้ามเผาในช่วงระหว่างวันที่ 1 ก.พ.-30 เม.ย.66 พบว่าในหลายพื้นที่ก็เริ่มที่จะมีท่าทีงดเผาโดยช่วงก่อนวันประกาศจากทางจังหวัดชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างชิงเผาไปก่อนแล้ว หากเผาในช่วงที่ห้ามเผานี้ก็อาจจะมีความผิดตามคำสั่งทางจังหวัดได้ นอกจากนี้ในพื้นที่ของ ต.ฝายกวาง ต.อ่างทอง และ ต.น้ำแวน ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาได้เกิดมีไฟป่าลามในพื้นที่บนดอยซึ่งบางจุดเจ้าหน้าที่และชาวบ้านไม่สามารถขึ้นไปดับได้เพราะเส้นทางค่อนข้างที่จะชันและอันตรายด้วย ทั้งนี้ตนได้กำชับในเรื่องของการดับไฟป่าให้พึงป้องกันตนเองไปในตัวด้วย รวมทั้งได้สั่งการให้ทางผู้นำชุมชนทุกพื้นที่หากมีการประชุมประจำเดือนก็ให้พูดถึงการห้ามเผาด้วยเพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง แต่ถ้าหากมีชาวบ้านรายไหนมักง่ายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังแน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ กล่าวเสริมว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วรากร อยู่อย่างไท ผบก.จ.พะเยา ได้มีการประชุมคอนเฟอเรนซ์กับ ผกก.ทั้ง 9 อำเภอในเรื่องของการดำเนินคดีต่อผู้ที่ลักลอบเผาในช่วงนี้ ซึ่งในส่วนของ สภ.เชียงคำในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการแจ้งเหตุผู้ลักลอบเผา แต่ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกส่วนได้จับตาตามหมู่บ้านต่างๆ ว่ามีการลักลอบเผาหรือไม่ หากมีก็จะเข้าทำการควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีเพราะถือว่าเป็นเหตุซึ่งหน้าและฝ่าฝืนคำสั่งอย่างชัดเจน ทั้งนี้ในเรื่องของการแจ้งความเอาผิดต่อผู้ใดที่ลักลอบเผาก็ตามหากชาวบ้านหรือผู้นำชุมชนพบเจอการกระทำผิดในช่วงห้ามเผานี้สามารถถ่ายรูปหรืออัดคลิปแล้วเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เชียงคำได้ตลอดเวลา ซึ่งจะมีรางวัลนำจับให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสด้วยเช่นกัน
นายอนุชา กาติ๊บ นายก อบต.อ่างทอง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงนี้พื้นที่ของ ต.อ่างทองพบเจอปัญหาของไฟป่าในส่วนของดอยทาที่ติดกับ อ.เทิง และดอยอีสานที่ติดกับ อ.ภูซาง ซึ่งตนก็ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงไว้ได้เป็นช่วงๆ แต่ในส่วนของดอยทานั้นพบว่าจะเกิดในเวลาช่วงกลางดึกอีกทั้งพื้นที่การเข้าควบคุมเพลิงยังขึ้นไปดับด้วยความยากลำบากเช่นกัน แต่ในส่วนของหมู่บ้าน ชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือและงดเผาตามประกาศจากทางจังหวัดแล้วด้วย
