คนร้ายขว้าง ‘ไปป์บอมบ์’ ฐานทหารที่รือเสาะ จนท.ขยาดไม่เข้าตรวจเกรงซ้ำรอย ‘ศรีสาคร’

คนร้ายขว้าง ‘ไปป์บอมบ์’ ฐานทหารที่รือเสาะ จนท.ขยาดไม่เข้าตรวจเกรงซ้ำรอย ‘ศรีสาคร’

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.50 น. ของวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธัญญะ ลัภบุญ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ใส่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4601 ซึ่งตั้งอยู่บ้านลูโบะปูโละ ม.3 ต.สามัคคี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 4601 เพื่อขอทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นโดยสรุป

จากการตรวจสอบเบื้องต้นได้รับรายงานว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนอาศัยความมืดแฝงตัวมาจากป่ารกทึบด้านหลังของฐาน จากนั้นได้ขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ จำนวน 1 ลูก มาตกที่บริเวณด้านหลังของฐานเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 4601 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เวรยามด้านหลังของฐาน และกำลังอีกจำนวนหนึ่งที่แยกย้ายเข้าเวรยามรอบฐาน เมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จึงได้วิ่งเข้าบังเกอร์ประจำจุดภายในฐาน พร้อมใช้อาวุธปืนประจำกาย ยิงสุ่มเข้าไปในป่ารกทึบที่คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายได้ขว้างระเบิดไปจำนวนหลายชุด ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยความมืดหลบหนีไป ส่วนระเบิดที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ และไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด

Advertisement

ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา พบเจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. บางจุดมีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนเส้นทางที่ไปสู่ฐานปฏิบัติการณ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4601 ในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เกรงจะได้รับอันตรายถึงชีวิต

Advertisement

ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการรวบรวมประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ไม่มีเจ้าหน้าที่แม้แต่สังกัดเดียว ทั้งที่ปกติมักเดินทางมาร่วมตรวจที่เกิดเหตุพร้อมๆ กัน และเมื่อทราบข้อมูลข้อเท็จจริงจึงได้โทรศัพท์ทำการประสานไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ จ.นราธิวาส หลายท่านได้รับคำตอบไปในทิศทางเดียวกันว่า ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงจากกองทัพภาคที่ 4 มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ห้ามเดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเป็นอันขาด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเกรงกลุ่มคนร้ายจะวางแผนลวง เพื่อลอบดักทำร้ายและดักสังหารเจ้าหน้าที่เหมือนกับเคสพื้นที่บ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ที่คนร้ายได้วางแผนใช้อาวุธปืนยิงและขว้างระเบิดซ้ำใส่ฐาน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 66 และวันรุ่งขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 66 พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาค 4 และ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี นำขบวนและช่วงขากลับคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดที่นำไปฝังไว้บริเวณใต้ผิวถนน ซึ่งห่างจากฐาน ประมาณ 800 เมตร ส่งผลทำให้ พ.ต.ลิขิต วิทยประภารัตน์ หน.ชุด และ จ.ส.อ.อิสระ เลิกนอก เสียชีวิต ส่วน ส.อ.ศักย์ศรณ์ สายน้ำได้รับบาดเจ็บhttps://youtu.be/JwbXYrPw0ao

นอกจากนี้ยังได้รับคำชี้แจงจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ จ.นราธิวาส เพิ่มเติมอีกด้วยว่า จากนี้การเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอันเกี่ยวเนื่องจากปัญหาความมั่นคง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องรออีก 1-2 วัน จนกว่าจะให้กำลังพลที่เกี่ยวข้อง ทำการเคลียร์พื้นที่ถนนหนทางทุกสายที่มุ่งสู่จุดเกิดเหตุ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดประวัติซ้ำรอยเหมือนเคศ อ.ศรีสาคร และเมื่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบอย่างรายละเอียด จนมั่นใจว่าปลอดภัยจึงจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.ฉก.นราธิวาส กล่าวว่า สำหรับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้น ท่านแม่ทัพภาค 4 ได้เน้นย้ำว่าจะเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องปลอดภัยก่อน นั่นหมายถึงว่าหน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่ใดก็แล้วแต่ที่เป็นเส้นทางที่จำเป็นต้องใช้ในการอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ จะต้องมีการวางกำลังและตรวจสอบเส้นทางอย่างละเอียด จะด้วยการใช้กำลังเดินลาดตระเวนหรือเครื่องมือเพิ่มเติมก็แล้วแต่ รวมทั้งไม่ใช่เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบพื้นที่เพียงอย่างเดียว ให้บูรณาการในส่วนของกำลังภาคประชาชน คืออาสาสมัครประจำพื้นที่ หรือกำลังชุดคุ้มครองตำบลที่เป็นเส้นทางผ่านก็แล้วแต่ ให้ออกมาดูแลเส้นทางกันมากขึ้น

“ย้ำว่าต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ และจบที่การปฏิบัติอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นแค่การรายงานว่าทุกอย่างเรียบร้อย เรามีบทเรียนซึ่งเป็นความสูญเสียที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของพวกเราพอสมควร ก็อย่างที่บอกว่าท่านแม่ทัพให้เดินหน้าในเรื่องของการทำงานทุกเรื่อง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพวกเรากันเองและประชาชนในพื้นที่” พล.ต.เฉลิมพรกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image