ซุปเปอร์ยอชต์มาเลย์ ไม่จ่ายภาษีให้ไทยกว่า 12 ล้านบาท ไร้ใบอนุญาตเข้าน่านน้ำ จ่อแบล๊กลิสต์

ภูเก็ตตรวจสอบเรือสำราญต่างชาติ ไม่เสียภาษี 12 ล้านบาท พบไม่มีใบอนุญาตประกอบการ สั่งชำระภาษีให้สรรพากร ก่อนถูกแบล๊กลิสต์

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ห้องประชุมสรรพากร จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต น.อ.กฤษณ์ เคลือบมาศ รองผู้อำนวยการ ศรชล.จ.ภูเก็ต ศรชล.ภาค3 เป็นประธานการประชุมการตรวจสอบเรือสำราญที่เข้ามาทำธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเลในน่านน้ำไทย โดยมีสรรพากรจังหวัดภูเก็ต เจ้าท่าส่วนภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ตำรวจน้ำภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต กรมการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจเรือยอร์ชไทย สำนักฝ่ายอำนวยการ ศรชล.ภาค 3 เจ้าของเรือ ผู้ประกอบการ เข้าร่วมประชุม

น.อ.กฤษณ์กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้เป็นประธานการประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาการร้องเรียนของ เรือ NAVIS ONE ไม่ชำระภาษีให้กับสรรพากรจังหวัดภูเก็ต ทำให้ประเทศขาดรายได้จากการจัดเก็บภาษีเป็นจำนวนมากกว่า 12 ล้านบาท โดยมีการร้องเรียนไปที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

Advertisement

“เรือ NAVIS ONE สัญชาติมาเลเซีย มีเจ้าของเป็นชาวอังกฤษ จำนวน 3 คน เขาอ้างว่าทริปก่อนเป็นของเพื่อนในจำนวน 3 คนนี้ แต่สรรพากรภูเก็ตมีระบบมารีนไทม์สามารถตรวจจับเรือได้ดีในการแจ้งเข้าออก ทำให้ติดตามตรวจสอบได้ ซึ่งภาษีต้องเข้าประเทศ 12% คิดเป็นเงินประมาณ 12 ล้านบาท” น.อ.กฤษณ์ระบุ

น.อ.กฤษณ์กล่าวว่า เรือลำนี้เข้ามา 10 เที่ยว จ่าย 3 เที่ยว และเจ้าทุกข์คือสรรพากร ซึ่งเป็นคนเก็บภาษี มีเจ้าหน้าที่ตรวจเรือ ประกอบด้วย ตม., สวัสดิการคุ้มครองแรงงานและเจ้าท่าภูเก็ต ปรากฏว่า เรือลำดังกล่าวยังไม่ได้รับใบอนุญาตเรือเข้ามาในน่านน้ำไทย ในการขายแพคเกจบริการให้เช่าเรือซุปเปอร์ยอชต์ มี DECLARE ออกมาทั้งหมดกี่ทริป ผลตรวจสอบว่าจ่าย 4 ทริป ในทั้งหมด 14 ทริป จึงให้เจ้าท่าทำหนังสือสอบถามไป และให้ตอบมาหลังจากรับหนังสือแล้วภายใน 7 วัน ในวันนี้ (10 มี.ค.) ทางเรือได้รับทราบแล้ว ดังนั้น ภายใน 7 วันนี้จะต้องตอบมา

Advertisement

น.อ.กฤษณ์กล่าวอีกว่า ทราบว่าการจัดทริปของเรือวันละประมาณ 80,000-100,000 บาท และในเดือนเมษายนนี้มีการจองแล้ว 3 ทริป ได้เน้นย้ำว่าจะต้องจ่ายภาษีทุกทริปเต็มจำนวนตามที่สรรพากรเรียกเก็บ ถ้าไม่จ่ายจะต้องโดนแบล๊กลิสต์

“ได้แจ้งให้ชำระภาษีให้กับแผ่นดินในการมาประกอบท่องเที่ยวเรือสำราญโดยให้เช่าเรือ โดยต้องเสียภาษี 12% ให้กับรัฐ จึงขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้กับเรือลำอื่น ถ้ามีการชักดาบจะไม่อนุญาตให้มาประกอบการ เพื่อให้ประเทศชาติได้มีรายได้มากขึ้น” น.อ.กฤษณ์ระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image