แจ้งความน้าชายโหด ใช้มีดฟันพิตบูลหลานสาว 2 ตัว แผลเหวอะ ชาวบ้านระดมทุนผ่าตัดช่วยชีวิต
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 11 มีนาคม ศูนย์วิทยุอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี รับแจ้งขอความช่วยเหลือมีสุนัขพิตบูล 2 ตัว ถูกคนร้ายใช้มีดฟันที่หัวและใบหน้าบาดเจ็บสาหัส เสียเลือดมาก แต่เจ้าของไม่มีเงินนำไปรักษา
เหตุเกิดในซอยตลาดล่าง 1 ถนนปากน้ำ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จึงรีบไปตรวจสอบพบสุนัขชื่อ อ้วน อายุ 2 ปี เพศเมีย ถูกมีดฟันเป็นแผลฉกรรจ์ที่หัวและใบหน้าหลายแผล และอีกตัวชื่อ เงาะ อายุ 2 ปี เพศผู้ ถูกฟันที่หัวเป็นทางยาวไปถึงต้นคอ ทั้ง 2 ตัวเลือดไหลท่วมตัว
เบื้องต้น น.ส.โสภาพร อายุ 28 ปี เจ้าของสุนัข แจ้งว่า เหตุเกิดช่วงค่ำแต่ไม่มีเงินพาไปรักษา หัวหน้ากู้ภัยทราบจึงตัดสินใจนำสุนัขทั้ง 2 ตัวส่งโรงพยาบาลสัตว์เพื่อช่วยเหลือชีวิตก่อน สัตวแพทย์ได้ผ่าตัดห้ามเลือดเย็บแผลตัวละกว่า 50 เข็ม โดยสุนัขชื่อ “อ้วน” ถูกฟันจนลิ้นเกือบขาด สัตวแพทย์ได้เย็บต่อลิ้นได้สำเร็จ ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 23,300 บาท ซึ่งกู้ภัยได้แจ้งระดมทุนช่วยค่ารักษา มีชาวบ้านช่วยบริจาคจนครบจำนวนค่ารักษาแล้ว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.โสภาพร ที่บ้านพักพบสุนัขทั้ง 2 ตัว ซึ่งแพทย์ให้กลับมาพักที่บ้านแล้ว โดยสุนัขทั้ง 2 ตัวยังมีอาการอ่อนเพลีย มีเลือดซึมออกตามบาดแผลเป็นระยะ
น.ส.โสภาพรนำภาพวงจรปิดที่ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็น น้าชาย เข้าไปทำร้ายสุนัขทั้ง 2 ตัว และได้แจ้งความกับ ร.ต.ท.หญิง นิธิมา นนทิสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ดำเนินคดีแล้ว
น.ส.โสภาพรกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งขายของอยู่ที่ร้านปากบริเวณซอยบ้าน น้าชายผู้ก่อเหตุโทรศัพท์หาน้องชายตนว่าถูกสุนัขกระโจนใส่จนกางเกงขาด ตนจึงให้น้องชายเข้าไปดูและถามน้าชายว่าจะไปโรงพยาบาลไหม แต่น้าชายปฏิเสธ บอกว่าไม่ได้เจ็บอะไร ผ่านไปสักครู่น้าสาวที่บ้านอยู่ใกล้กันโทรศัพท์มาบอกว่าหมาโดนฟันให้รีบเข้าไปดู ซึ่งโดยปกติทั้ง 2 ตัวตนได้ล่ามโซ่ไว้ตลอด และไม่ดุ ไม่ทำร้ายใคร
น.ส.โสภาพรกล่าวว่า หลังเกิดเหตุน้องชายได้เข้าไปคุยกับน้าชาย แต่มีปากเสียงกันและบอกว่า “ฟันหมามึงตัวหนึ่งไม่ทำให้กูติดคุกหรอก” ที่ผ่านมาตนไม่เคยมีปัญหา หรือทะเลาะกับน้าชายมาก่อน และเป็นครั้งแรกที่สุนัขตนกระโจนใส่
มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุน้าชาย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุมีบ้านใกล้กันอาศัยอยู่คนเดียวได้หายตัวไปจากบ้านแล้ว ก่อนหน้านี้ น.ส.โสภาพรกับน้าชายไม่ได้พูดคุยกันกว่าปีแล้ว เนื่องจากเคยยุแหย่ให้ น.ส.โสภาพรเลิกกับสามี
