คืบหน้ากินไข่แมงดา หมอตราดเผย 3 คนยังต้องอยู่ รพ.ดูอาการ อีก 2 คน กลับบ้านได้
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นพ.ภานุวัฒน์ โสภณเลิศพงศ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตราด เปิดเผยถึงกรณีชาวบ้าน 7 คนที่กินไข่แมงดาไปแล้วเสียชีวิตว่า ชาวบ้านที่กินไข่แมงดามีทั้งหมด 7 ราย และเสียชีวิตที่ รพ.ตราด 1 ราย และเสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย อาการหนัก 3 ราย และ 2 ราย อาการดีให้กลับบ้านได้ โดยทั้งหมดได้นำไข่แมงดามากินแล้วเกิดอาการเป็นพิษ โดยรายแรกเข้ารักษาอาการที่ รพ.แหลมงอบ ในวันที่ 18 มีนาคม และถูกส่งมาที่ รพ.ตราดหลังปฐมพยาบาลแล้วในวันที่ 19 มีนาคม และเสียชีวิต อีกคนเสียชีวิตที่บ้าน
จากนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าสอบสวนโรคและพบว่ามีผู้กินไข่แมงดาในวันนั้นรวม 7 คน 2 คนเสียชีวิต และอีก 3 คนนอนรักษาตัวที่ รพ.แหลมงอบ อีก 2 คนรักษาที่ รพ.เขาสมิง โดย 2 รายได้ให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนอีก 3 รายนั้นยังต้องดูอาการใกล้ชิด ซึ่งอาการที่เป็นพิษและเสียชีวิตนั้นอยู่ที่ปริมาณการกินว่ามากหรือน้อย ซึ่งอาการจะเกิดขึ้นเป็นลำดับ ตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนแรง หากมีอาการรุนแรง ก็จะชัก ลิ้นแข็ง หายใจไม่สะดวก ลิ้นแข็งกล้ามเนื้อแขนอ่อนแรง และสุดท้ายระบบการหายใจหยุด ซึ่งสารพิษ (เตโตรโดท็อกซิน) ส่งผลต่อระบบประสาท เป็นอัมพาต และสุดท้ายเสียชีวิตไป
นพ.ภานุวัฒน์กล่าวว่า สำหรับแมงดานั้นจะมี 2 ประเภทคือ แมงดาถ้วย กับแมงดาจาน ที่มีขนาดใหญ่สามารถทานได้โดยทั่วไป ส่วนแมงดาถ้วยหรือที่เรียกว่า เหรานั้น จะกินไม่ได้และจะมีพิษ และจะมีหางใหญ่ อย่างไรก็ตาม แมงดาถ้วยบางทีกินไปแล้วก็อาจจะไม่เป็นพิษสำหรับบางคน แต่ขอเตือนว่าไม่ควรจะนำมาบริโภคเด็ดขาด ส่วนเรื่องที่แมงดาจะไปกินสาหร่ายที่มีพิษแล้วสะสมไว้และเมื่อชาวบ้านนำมากินจึงทำให้เกิดพิษ ซึ่งก็มีทฤษฎีนี้พูดอยู่เช่นกัน แต่ก็ยืนยันไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้น เราควรหลีกเลี่ยงไม่รับประทานกลุ่มแมงดาถ้วยหรือเหราเพราะอย่างไรก็เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
– อุทาหรณ์! ตั้งวงก๊ง กินยำ ‘ไข่แมงดาถ้วย’ กับแกล้ม ดับ 2 เจ็บอีก 5
