รวบแล้วมือสังหารหนุ่มขนส่ง 14 นัด เหตุทะเลาะเรื่องขับรถปาดหน้าตั้งแต่ปลายปี เจอรถจำได้ ตามกระหน่ำยิงจนดับ
จากเหตุการณ์สุดโหดเหี้ยม มือปืนประกบกระหน่ำยิง นายอัครเดช หรือเอก อายุ 52 ปีชาวลพบุรี หนุ่มขนส่งกระสุนฝังตัวถึง 14 นัด จนดับคารถคู่ชีพ เหตุเกิดที่ถนนสาย เอราวัณ-เขาหนีบ ต.ท่าศาลา อ.เมือง ลพบุรี เมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 13 มี.ค.66 โดยภรรยายังคาใจเพราะสามีไม่เคยมีปัญหากับใคร
ขณะที่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองลพบุรี เพื่อร่วมประชุมติดตามคดีดังกล่าว พร้อมมุ่งประเด็นการสังหารเหี้ยมโหดในครั้งนี้ ซึ่งแนวทางการสอบสวน ได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ ไปแล้วจำนวน 5 คน ประกอบกับตรวจดูวัตถุพยานต่างๆ รวมถึงกล้องวงจรปิดตามเส้นทางในจุดเกิดเหตุและเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไว้แล้วนั้น
ล่าสุดแหล่งข่าวได้เผยว่าเมื่อช่วงสายของวันที่ 20 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองลพบุรี ได้จับกุม นายประยุทธ์ (สงวนนามสกุล) อดีตทหาร อายุ 58 ปี ชาวจ.ลพบุรี ตามหมายจับ จ.38/2566 มือสังหารที่ยิงนายอัครเดช โดยผู้ต้องหาเป็นทหารหน่วยหนึ่งในตำบลเขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรีจังหวัดลพบุรี ซึ่งมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี พร้อมนำตัวสอบสวนอย่างเคร่งเครียด ภายในห้องสอบสวน กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี ถึงปมสาเหตุของการสังหารในครั้งนี้
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 20 มีนาคม พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรารถนา แผ่นผา รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมือง ลพบุรี พ.ต.อ.พงศ์สุริยะ สุวรรณพันธ์ ผกก.สส.ภ.จว.ลพบุรี ร.ต.อ.สมศักดิ์ ทองกร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ลพบุรี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และเจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโคพร้อมอาวุธครบมือจำนวนกว่า 20 คนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ ไปตามเส้นทางเอราวัณ-น้ำจั้น ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี
เพื่อเข้าไปตรวจค้นอาวุธปืนของกลางที่ใช้สังหารในบ้านพักค่ายทหารแห่งหนึ่งที่คนร้ายรายนี้รับราชการและพักอาศัยอยู่เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้
โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปติดตามทำข่าวในค่ายทหารดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นปมปัญหาระหว่างหน่วยงาน ซึ่งทำให้บรรดานักข่าวต่างเฝ้ารอการเข้าตรวจค้นหาอาวุธปืนและหลักฐานต่างๆด้านหน้าค่ายทหารแห่งนี้
ทั้งนี้ภายหลังจากการเข้าตรวจค้นภายในค่ายทหารดังกล่าวกว่า ครึ่งชั่วโมง ชุดเจ้าหน้าที่ได้เดินทางออกมา โดยมีการตรวจยึดจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีแดงดำ หมายเลขทะเบียนลพบุรี ที่ใช้เป็นพาหนะก่อเหตุออกมาด้วย
จากนั้นได้ควบคุมตัว เดินทางไปตรวจค้นหาหลักฐานที่น่าจะเชื่อมโยงกับการสังหารที่บ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านซึ่งเป็นของภรรยาผู้ต้องหารายนี้ จากนั้นได้พาตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ถนนสาย เอราวัณ-เขาหนีบ หมู่ที่ 8 ต.ท่าศาลา อ.เมือง ลพบุรี ท่ามกลางประชาชนมุงดูจำนวนหนึ่ง โดยที่ภรรยาและครอบครัวไม่ได้เดินทางมาดูการทำแผนดังกล่าว เนื่องจากเป็นการนำตัวมาทำแผนแบบกระทันหันและใช้เวลาไม่กี่นาที
ต่อมาได้นำตัวกลับไปที่ สภ.เมืองลพบุรี เพื่อทำแผนขณะที่ นายประยุทธ์กระหน่ำยิงนายอัครเดช ที่จุดจอดรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า ดัดแปลงเป็นรถตู้ทึบ สีบรอนซ์ เทา หมายเลขทะเบียนลพบุรี รถคู่ชีพที่นาย อัครเดช หรือเอก อายุ 52 ปี ถูกยิงจนเสียชีวิตคารถ ที่หน้าบริเวณ สภ.เมืองลพบุรี โดย นายประยุทธ์ ยังได้จุดธูปขอขมาผู้ตายด้วย
ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายประยุทธ์ ให้การรับสารภาพว่าตนเองเคยมีเรื่องทะเลาะกับผู้ตายอย่างรุนแรงจากอุบัติเหตุรถทั้งสองฝ่ายชนกัน จนภรรยาตนเองได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณปั๊ม ปตท.สี่แยกนิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี ตั้งแต่ปลายปี 2565 ทำให้ตนเองเจ็บใจมาก
กระทั่งในวันเกิดเหตุตนเองเห็นผู้ตายขับรถไปส่งพัสดุให้ลูกค้าในหมู่บ้าน ตนเองจำได้ จึงขับรถจักรยานยนต์ติดตามไป ขณะถึงเส้นทาง ถนนสาย เอราวัณ-เขาหนีบ หมู่ที่ 8 ต.ท่าศาลา อ.เมือง ลพบุรี ผู้ตายจอดรถเพื่อส่งของให้ลูกค้า ตนเองจึงจอดรถจักรยานยนต์ ด้านหลัง รถกระบะ จากนั้นได้เดินไปที่ด้านตรงคนขับแล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจนกระสุนหมดลำกล้อง
ก่อนที่จะเดินกลับไปที่รถจักรยานยนต์แล้วขี่หลบหนีไปตามเส้นทางนิคม-โคกตูม แล้วหลบซ่อนตัวกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมที่บ้านพักดังกล่าว
