บึงบอระเพ็ดเหลือน้ำไม่ถึงครึ่งสามารถรักษาระบบนิเวศได้อีกประมาณ 60 วัน
หากฝนทิ้งช่วงจะเข้าสู่ภาวะวิกฤตแน่ ชลประทานวอนเกษตรกรนอกเขตชลประทานชะลอการทำนาปรัง ปรากฏการณ์เอลนีโญจะส่งผลกระทบชาวนาเจอวิกฤตทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานได้ เร่งดันงบสร้างประตูน้ำ 4 บานรอบบึงบอระเพ็ดต่อไป
นายนิพนธ์ ดวงดารา หัวหน้าวิศวกรด้านจัดการน้ำ ชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า นักวิชาการออกมาเตือนว่าประเทศไทยอาจประสบปัญหาปรากกการณ์เอลนีโญ ส่งผลทำให้ฝนทิ้งช่วงเกิดแล้งยาวนาน 3 ปีนั้น หลายภาคส่วนก็เตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะชลประทานจังหวัดนครสวรรค์มีการประชุมเตรียมพร้อม เพื่อรับมือน้ำแล้งและน้ำหลากในช่วงเวลานี้ด้วย เป็นการเตรียมพร้อมรับมือเพื่อบริหารัดการน้ำและสำรวจตรวจสอบทางน้ำ ที่จะรับมือหากเกิดฝนตกรุนแรงในเวลาอันใกล้
นายนิพนธ์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในบึงบอระเพ็ดเหลือประมาณ ร้อยละไม่เกิน 40 หรือเหลือน้ำประมาณ 69 ล้าน ลบ.เมตรโดยประมาณ หากช่วงนี้สภาพอากาศร้อนจัดจะทำให้น้ำในบึงบอระเพ็ดระเหยออก น้ำลดลงประมาณวันละ 1-2 ซม.คาดว่าน่าจะไม่เกิน 60 วันน้ำในบึงบอระเพ็ดจะแห้งลดต่ำกว่าจุดวิกฤตที่ 22.5 ลบ.เมตร จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ หรือเรื่องประมงทันที ซึ่งต้องรอดูว่าฝนจะตกลงมาเติมปริมารน้ำในบึงช่วงนี้หรือไม่
ในส่วนชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ มีหน้าที่ในการจัดสรรน้ำ กรมชลประทานได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้เกษตรกรที่นำนารอบบึงบอระเพ็ดชะรออการสูบน้ำจากบึงบอระเพ็ดไปทำนาช่วงนี้ก่อน เพราะจะทำให้น้ำแห้งรวดเร็วและหากเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญซ้ำอีก จะยิ่งทำให้เกิดภาวะวิกฤตน้ำในบึงบอระเพ็ดทันที เกิดภาวะวิกฤตการทำนาด้วย ชาวนาในที่ลุ่มนาข้าวก็เสียหาย ชาวนาในที่ดอน นาข้าวก็ล้มตายเช่นกัน ฉะนั้นช่วงนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชน ชะลอการทำนาปรังในที่ดอนก่อน
“ขณะนี้ชลประทานได้อนุมัติงบเหลือจ่ายเพื่อแก้ปัญหาน้ำในบึงบอระเพ็ดทั้งระบบ โดยชลประทานเป็นเจ้าภาพและได้อนุมัติงบมาแล้วเพื่อสร้างประตู 4 จุดเพื่อใช้ในการจัดการน้ำในบึงอย่างเป็นระบบ หากการก่อสร้างประตู 4 บานสำเร็จจะส่งผลดีให้การเติมน้ำในบึงบอระเพ็ดได้และเวลาน้ำท่วมจะสามารถเปิด-ปิด ระบายน้ำออกได้อย่างเป็นะรบบ แต่ปัญหาการใช้งบประมาณของกรมชลประทานต้องผ่านประชาคมก่อน” นายนิพนธ์กล่าว
และว่าส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ อำเภอแม่เปิน และน้ำในอ่างเก็บน้ำอำเภอไพศาลีขณะนี้น้ำมีประมาณร้อยละ 70-80 ของความจุ จะสามารถระบายน้ำออกมาให้เกษตรกรได้ใช้ทำนาช่วงหน้าแล้งได้ร้อยละ 50 ของความจุ ส่วนที่เหลือก็จะต้องเก็บไว้ใช้จนถึงปีหน้าต่อไป จึงฝากเกษตรกรพื้นที่นอกเขตชลประทานชะลอการทำนาปรังไปก่อนจะดีที่สุด
