อำมหิต! หลานคลั่ง ‘ตัดหัว’ อา คนให้ข้าวให้เงินใช้ หิ้วใส่ถุงไปทิ้งบ่อดิน อ้างแค้นเรื่องส่วนตัว

หลานติดยาคลั่งใช้มีดไล่ฟันตัดหัวอา อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หิ้วใส่ถุงพลาสติกเดินไปทิ้งในบ่อดิน อ้างแค้นเรื่องส่วนตัว ญาติและชาวบ้านเชื่อหลอนยา อาคอยช่วยเหลือดูแลทั้งอาหารการกินและให้เงินใช้มาตลอด

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 มีนาคม ร.ต.อ.จรูญ โสพิกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุฆ่ากันตายที่หลังบ้านพัก ในหมู่บ้านหนองจอก ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ

รุดลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 หน่วยกู้ภัยรัตภูมิ นางวิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภาค 9

พบศพ นายวาสนา อายุ 52 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “วาดหนา” เป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านหนองจอก สภาพศพนอนตะแคงข้าง ศีรษะถูกตัดขาดหายไปเหลือแต่ลำตัว มีบาดแผลถูกฟันเป็นแผลที่ข้อมือขวา หัวไหล่ซ้าย เสียชีวิตอยู่ในสวนหลังบ้าน

Advertisement

แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบศีรษะในที่เกิดเหตุ ก่อนจะติดตามได้ว่าคนร้ายได้ตัดศีรษะและหิ้วปีนข้ามกำแพงหลังบ้านไปด้วย โดยบนกำแพงยังมีรอยเลือดติดอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะนำศีรษะไปวางไว้ขณะที่ปีนข้ามกำแพง

โดยภายในบ้านหลังดังกล่าวเป็นร้านค้าที่อยู่ติดกับบ้านที่พบศพ พบคราบเลือดไหลย้อยเป็นทาง ตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงในครัวหลังร้าน ซึ่งมีกองเลือดกองใหญ่ และเป็นจุดที่คนร้ายลงมือฆ่าก่อนที่จะลากศพไปตัดหัวที่หลังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน

รายงานว่า ตั้งแต่บ้านที่พบศพไปจนถึงบ้านเลขที่ 244 ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบเลือดไหลย้อยเป็นทาง รวมถึงภายในบ้านของผู้ตายทั้งหน้าบ้านและในห้องนอนเต็มไปด้วยรอยเลือด

Advertisement

จากการสอบสวนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายเกียรติศักดิ์ อายุ 36 ปี หรือเอก หรือบางคนเรียกว่าบูด มีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ๆ ของผู้ตาย และมีบ้านอยู่ใกล้กัน ตำรวจตามไปจับตัวได้ที่บ้าน ซึ่งยอมเดินออกมามอบตัวแต่โดยดี โดยไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด พร้อมอาวุธมีดคล้ายมีดสปาร์ตายาวประมาณ 30 เซนติเมตร ที่ใช้ก่อเหตุ

ยอมรับว่าเป็นคนฆ่าตัดหัวนายวาสนา ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ของตัวเอง ส่วนศีรษะได้ตัดและนำใส่ถุงพลาสติกเดินลัดเลาะเนินเขาที่เป็นป่าสวนยางหลังบ้านนำไปโยนทิ้งในบ่อทราย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ตำรวจจึงได้คุมตัวไปตรวจจุดที่นำศีรษะไปทิ้งในบ่อทรายซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านนาลึก ต.เขาพระ

สอบถามคนงานบ่อทราย ยืนยันว่าเห็นนายเกียรติศักดิ์เกาะขอนไม้ว่ายน้ำลงไปกลางบ่อทรายจริง และเมื่อถามว่าลงไปทำอะไรก็ตอบว่าไปออกกำลังกาย ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าก่อเหตุฆ่าตัดคอมา จึงไม่ได้สนใจอะไร โดยเห็นนายเกียรติศักดิ์ว่ายน้ำไปจนถึงกลางบ่อทรายและว่ายกลับเข้าฝั่ง

ตำรวจได้ประสานชุดประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ๊งหาดใหญ่ มาดำน้ำค้นหาศีรษะในบ่อทราย ซึ่งมีความลึกประมาณ 7-8 เมตร ตรงจุดที่นายเกียรติศักดิ์บอกว่านำศีรษะไปทิ้ง แต่หลังจากที่ดำน้ำค้นหานานหลายชั่วโมงยังไม่พบ

จากการสอบสวนนายเกียรติศักดิ์ถึงสาเหตุที่ฆ่าตัดหัวอาของตัวเอง เบื้องต้น อ้างว่ามีเรื่องโกรธแค้นเป็นการส่วนตัวกับอาที่ไปทำร้ายพ่อ และถูกอาใส่ร้ายว่าไปขโมยทีวี แต่เป็นเพียงคำให้การในเบื้องต้นเท่านั้น ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเพราะสภาพของนายเกียรติศักดิ์ไม่อยู่กับร่องกับรอยและมีประวัติติดยาเสพติดอย่างหนักด้วย

การสอบถามญาติใกล้ชิดและชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสาเหตุน่าจะมาจากอาการหลอนยา คิดไปเอง เพราะปัจจุบันมีเพียง นายวาสนา ซึ่งเป็นอาคนเดียวที่คอยช่วยเหลือให้ข้าวให้น้ำกิน ให้เงินใช้ และมีบ้านอยู่ใกล้กัน แต่มักจะพูดเตือนบ้างโดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดและเรื่องงาน

  • ตำรวจไล่ไทม์ไลน์เหตุสลด

ตำรวจได้ลำดับเหตุการณ์จากการสอบสวนพยานแวดล้อมและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เหตุเกิด 08.00 น. นายเกียรติศักดิ์ หรือเอก ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายในบ้าน และได้ยินเสียงคล้ายกับลับมีด ก่อนที่จะตะโกนเรียกชื่อคนตายว่า “วาดหนา” ซึ่งเป็นชื่ออา

เดินถือมีดไปยังบ้านอาที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ซึ่งอาก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้คนเดียวเพราะแยกทางกับภรรยาไปนานแล้ว และมุ่งตรงไปในห้องนอนของอาที่กำลังนอนอยู่ในห้อง และใช้มีดกระหน่ำฟัน

จากนั้นนายวาสนาจึงพยายามวิ่งหนีตายออกจากบ้านในสภาพที่ร่างโชกเลือดไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่เปิดร้านค้า แต่ไม่มีใครช่วยทันและกลัวเพราะเห็นนายเกียรติศักดิ์ หลานชายวิ่งตามหลังมาพร้อมกับมีด จากนั้นนายวาสนาวิ่งหนีเข้าไปหลังร้านค้าโดยมีนายเกียรติศักดิ์ถือมีดตามเข้าไปและได้ยินเสียงทั้งสองต่อสู้กันพร้อมกับเสียงร้องของนายวาสนาด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้าย

ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง ซึ่งคาดว่านายวาสนาน่าจะถูกฟันและเจ็บหนักจึงแน่นิ่งไป และถูกนายเกียรติศักดิ์ลากไปหลังบ้านใช้มีดตัดศีรษะอย่างโหดเหี้ยม

จากนั้นก็หิ้วศีรษะข้ามกำแพงสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งบนกำแพงก็ยังมีคราบเลือดติดอยู่ด้วย นำศีรษะใส่ถุงพลาสติกเดินลัดเลาะสวนยางซึ่งเป็นเนินเขา แล้วนำศีรษะไปทิ้งในบ่อทราย ก่อนที่จะเดินกลับมาที่บ้านอาบน้ำและนอนพักเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และตำรวจตามมาจับกุมได้ที่บ้าน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม เพื่อนบ้าน อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านที่นายวาสนา ผู้ตายวิ่งมาขอความช่วยเหลือ เล่าว่า ตอนนั้นยืนอยู่หน้าร้านก็เห็นนายวาสนาวิ่งร่างโชกเลือดมาขอความช่วยเหลือ โดยมีนายเกียรติศักดิ์ หลานชายวิ่งถือมีดตามมา ขณะนั้นยอมรับว่ากลัวต้องรีบถอยเพราะไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงและในบ้านมีภรรยาที่ป่วยนอนอยู่ด้วย และทั้งคู่วิ่งตามกันเข้าไปในครัวหลังร้านและได้ยินเสียงดังโครมครามและเงียบไป

สักพักก็เข้าไปดูก็เห็นกองเลือดในครัวเต็มไปหมด และมีร่างของนายวาสนา ถูกฆ่าตัดศีรษะนอนอยู่ในสวนหลังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองคนมีเรื่องอะไรกัน

ด้าน นางถนอม อายุ 32 ปี ซึ่งเป็น พี่สาวของผู้ตาย บอกว่า ไม่รู้ว่าทั้งสองคนอาหลานมีเรื่องอะไรกัน เพราะปกติหลานชายก็มาขอข้าวขอเงินจากอาเป็นประจำ โดยหลานชายปกติจะอยู่กับยาย 2 คนที่บ้าน แต่ยอมรับว่าหลานติดยา ส่วนสาเหตุนั้นไม่ทราบจริงๆ ว่ามาจากเรื่องใด

ด้าน เพื่อนบ้าน ที่มีบ้านอยู่ติดกับบ้านของนายเกียรติศักดิ์ บอกว่า นายเกียรติศักดิ์มีอาการไม่เหมือนคนปกติเนื่องจากติดยาและไม่ได้ทำงานอะไร ทุกวันก็จะเดินไปเดินมา ส่วนสาเหตุทั้งสองคนทราบว่าเคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนแล้วจากเรื่องภายในของเครือญาติด้วยกัน

ส่วนชาวบ้านอีกคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าทีแรกที่เห็นทั้งสองไล่ตามหลังกันไปบนถนนก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะทั้งคู่เป็นอาเป็นหลานแท้ๆ กัน แต่กลายเป็นว่าหลานตามไปฆ่าตัดหัวซึ่งชาวบ้านตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นภายในหมู่บ้าน

นอกจากนี้ จากการสอบถามชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ก่อนหน้านี้ย้อนหลังไปราว 5 ปี นายเกียรติศักดิ์ หรือเอก เป็นคนดีมาก เคยเป็นผู้รับเหมาโครงสร้างหลังคา มีลูกน้องนับสิบคน และมีภรรยามีลูก 1 คน มีรถกระบะ 2 คัน ระยะหลังได้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนงานการเริ่มลดน้อยลง สุดท้ายต้องเลิกอาชีพรับเหมา และย้ายไปอยู่กับภรรยาที่ จ.มหาสารคาม ได้ประมาณ 3 ปี ก่อนที่จะแยกทางกัน และกลับมาอยู่ที่บ้าน พักหลังชีวิตยิ่งจมเพราะเล่นยาหนัก ไม่มีงานทำอยู่กับยายอายุ 91 ปีที่บ้าน

มีนายวาสนา ซึ่งเป็นอาที่มีบ้านอยู่ใกล้กันคอยช่วยเหลือเรื่องกินอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงโกรธถึงขนาดฆ่าตัดหัวอาของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image