ทนายเดชา พาแม่สาวกลับจากบารห์เรน เสริมหน้าอกเสียชีวิต เข้าแจ้งความคลินิก เตรียมฟ้องแพ่งอีก 10 ล้าน

ทนายเดชา พาแม่สาวกลับจากบารห์เรน เสริมหน้าอกเสียชีวิต เข้าแจ้งความคลินิก เตรียมฟ้องแพ่งอีก 10 ล้าน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 มีนาคม ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ พานางจำปี ทองเจริญ อายุ 59 ปี มารดาของนางสาวกนกวรรณ โพธิ์ศรี อายุ 37 ปี สาวนวดแผนไทยโบราณที่ประเทศบาร์เรน ที่บินกลับมาทำศัลยกรรมหน้าอกที่คลินิกแห่งหนึ่งในเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังผ่าตัด พร้อมด้วย น.ส.จตุพร หาหอม อายุ 30 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต และนายธีรวุฒิ พุทธิวงศ์ไพศาล อายุ 16 ปี บุตรชายของผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายแพทย์ผู้ที่ทำการผ่าตัด และเจ้าของคลินิกศัลยกรรมดังกล่าว รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในการผ่าตัด ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

นายเดชา กล่าวว่า ในวันนี้ได้พาครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากการไปทำศัลยกรรมอัพไซส์ที่คลีนิกแห่งนี้มาแจ้งความดำเนินคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพียงข้อหาเดียวก่อนในเบื้องต้น ส่วนความผิดในข้อหาอื่นๆ นั้นทราบว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้มาเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมในอีกหลายข้อหา ซึ่งผลชันสูตรจะออกในอีก 7 วัน แต่จากการติดต่อประสานงานทำให้ทราบคราวๆแล้วว่า เกิดมาจากความผิดพลาดในการรักษา จนเป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตเสียเลือดออกมาจำนวนมาก และห้องที่ใช้ผ่าตัดเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการผ่าตัดใหญ่ด้วย เป็นการใช้สถานที่ผิดประเภท ทราบว่าในวันที่ 31 มีนาคมนี้ พนักงานสอบสวนได้เรียกหมอที่ทำการผ่าตัดมาสอบปากคำ

นายเดชา กล่าวอีกว่า ตนเตรียมยื่นเรื่องให้ทางแพทย์สภาและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตรวจสอบในเรื่องนี้อีกทาง เพราะมีหลักฐานเอาผิดอยู่พอสมควร รวมไปถึงเรื่องคลีนิกแห่งนี้มีใบอนุญาตที่ถูกต้องไหม เป็นหมอจริงไหม ถ้าเป็นหมอจริงเป็นหมอเฉพาะทางด้านนี้หรือเปล่า หรือเป็นแค่หมอศัลยกรรมทั่วไป แต่แอบมาหารายได้พิเศษในลักษณะนี้รวมไปถึงจรรยาบรรณของแพทย์ด้วย

Advertisement

“อย่างความผิดที่เห็นได้ชัดก็คือการใช้ห้องผ่าตัดศัลยกรรมขนาดใหญ่ จะต้องมีใบอนุญาตและมีวิสัญญีแพทย์คอยดูแลคนไข้ด้วยแต่ที่นี่ไม่มี เป็นความยกพร่องที่ชัดเจน จึงต้องฟ้องเอาผิดทั้งทางอาญาและแพ่ง โดยเรียกร้องเป็นเงินจำนวน 10 ล้าน เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีครอบครัว มีลูก 2 คน กับแม่ที่ต้องดูแลทำให้ทางครอบครัวขาดรายได้อุปถัมป์เลี้ยงดู”นายเดชา กล่าว

ด้าน น.ส.จตุพร หาหอม อายุ 30 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่สาวเคยมาพูดกับตนว่าเขาอยากไปทำหน้าอก แต่ตนไม่อยากให้เขาไปทำก็เลยไม่ได้คุยกันเรื่องนี้อีก ไม่รู้ว่าพี่สาวไปเจอไปติดต่อที่คลีนิกศัลยกรรมแห่งนี้ได้ยังไง ทราบแต่เพียงว่าทางคลีนิกแห่งนี้เรียกค่าศัลยกรรมเป็นเงิน 68,000 บาท จากราคาเต็ม 72,000 บาท ที่ทางคลีนิกลดราคาให้

น.ส.จตุพร กล่าวอีกว่า ตอนนี้หลังจากสูญเสียพี่สาวไป ผลกระทบตกไปอยู่ที่ลูกสาวคนเล็กวัย 8 ขวบ กับลูกชายคนโตอายุ 16 ปี ซึ่งยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งใครจะเป็นคนดูแลเด็กๆ ต่อจากนี้ จากที่พี่สาวทำงานส่งเงินกลับมาให้ครอบครัวใช้เดือนละ 30,000 บาท ซึ่งถ้าให้ตนเปรียบเทียบเงินจำนวน 10 ล้านบาทกับชีวิตพี่สาว ก็เลือกชีวิตพี่สาวดีกว่าเพราะเงินมันเทียบไม่ได้กับชีวิตคน ก็อยากให้ทางคลีนิกออกมารับผิดชอบ หรือนัดเจรจาช่วยเหลืออะไรบ้าง ไม่ใช่มีแต่บอกว่าจะโทรติดต่อกลับมาแต่ก็ไม่ได้โทรมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image