ไฟป่าดอยสุเทพเริ่ม เชียงใหม่ฝุ่นไม่แผ่ว ฟุ้งคลุมเมือง ทำเครื่องฟอกอากาศขาดตลาดแล้ว
วันที่ 31 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ที่ปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่ยังคงต่อเนื่อง โดยล่าสุดศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) รอบเช้า จำนวน 297 จุด เกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ พื้นที่เกษตร และชุมชน โดยสูงสุด คือ อ.อมก๋อย เชียงดาว พร้าว สะเมิง แม่แตง ฝาง แม่วาง หางดง และล่าสุดเมืองเชียงใหม่ สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงปัจจุบันจำนวน 6,895 จุด
โดยพื้นที่น่าห่วงและเปราะบางที่สุด คือ ไฟป่าดอยสุเทพ ที่ทุกหน่วยเฝ้าระวังกันมาตลอด ล่าสุดเมื่อเวลา 20.30 น. วานนี้ เกิดเหตุไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ รอยต่ออำเภอหางดง บริเวณน้ำตกตาดหมาไห้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 90 นาย เข้าดับไฟ แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่สูงชันเป็นหน้าผาและสภาพลมแรง จึงยังไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด เช้าวันนี้เฮลิคอปเตอร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งเข้าปฏิบัติภารกิจทิ้งน้ำดับไฟป่า
ซึ่งนายบัณรส บัวคลี่ ที่ปรึกษาสภาลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวว่า ในที่สุด บ้านปง น้ำแพร่ อ.หางดง ก็ไม่รอด และนี่คือสัญญาณอันตรายลามขึ้นดอยสุเทพ เนื่องจากไฟที่บ้านปง น้ำแพร่ เป็นไฟใกล้เมือง บนพิกัดที่ตั้งผลกระทบสูง ไฟละแวกนี้เคยเป็นต้นทางของหายนะไฟป่าดอยสุเทพเมื่อปี 2563 และเป็นต้นลมที่ใกล้เมืองที่สุดที่ส่งผลกระทบตีอคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ทันที ทุกหน่วยรู้ล่วงหน้าถึงความซ้ำซากของพื้นที่เสี่ยงที่ว่าอย่างดี ปีนี้จังหวัดเชียงใหม่กำหนดให้พิกัดไฟบ้านปง เชิงดอยสุทพ เป็นพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ นอกจากนั้นยังถูกหยิบยกมาพิจารณาเสนอเป็นพื้นที่กิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ ที่มาร่วมสนับสนุน เช่น วงประชุม ก.พ.ร. เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
“ปีนี้ละแวกป่าออบขาน บ้านปง น้ำแพร่ เริ่มมีไฟเข้าราวๆ วันที่ 26 มีนาคม แบบประปราย มีดับทันวันเดียว จากนั้นก็หนาตาขึ้น เป็นหย่อมใหญ่จากทางอุทยานแห่งชาติออบขาน และน้ำแพร่ ที่เก่าแถวซ้ำซากแถวเดิม ดอยละเมาะระหว่างบ้านห้วยเสี้ยวกับวัดนิลประภา ส่งสัญญาณการเผาแบบเดิมๆ เริ่มปฏิบัติการแล้ว เช้ามาวันนี้ ไฟบ้านปงที่คุ้นเคยกลับมา แนวรบใหม่ จุดใหม่จากที่ไล่จุดเมื่อวาน ขยับมาประชิดและข้ามแนวเขตอุทยานดอยสุเทพ ซึ่งหากไม่ดับให้ดี เคยลามขึ้นถึงยอดดอยปุย เสียหายมาก ทั้งยังมีไฟเป็นหย่อมด้านขวาของถนน 1269 ขึ้นสะเมิง ไฟด้านนี้เขามีแนวกันไฟไว้ตลอดกลัวลามขึ้นดอยสุเทพ แต่ก็เคยมีข้าม วันนี้ต้องจับตาพื้นที่บ้านปง หางดงเป็นพิเศษ หากลามขึ้นดอยสุเทพซ้ำรอยหายนะปี 2563 เรื่องใหญ่ทั้งนิเวศธรรมชาติ ปอดและจมูกผู้คน ไฟดอยสุเทพเมื่อปีนั้นค่าฝุ่นในเมืองทะลุ 700 นรกยิ่งกว่านรก ไฟไปไหนไม่ได้ทะลุเข้ามาบ้าน ประชาชนไม่อยากเผชิญภาวะนั้นอีก” นายบัณรสกล่าว
ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่ อ.หางดง โพสต์ข้อความว่า ฝูงนกยูงอพยพหนีออกมาจากเขตอุทยานแห่งชาติออบขานมากว่า 20 ตัว สถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก เพราะไฟลามคุกคามความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าในพื้นที่
ส่วนทางด้านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ออกติดตามสถานการณ์หน้ากากอนามัย N-95 และเครื่องฟอกอากาศ พร้อมกวดขันผู้ประกอบการ มิให้ทำการกักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางนัยนภัส สังขนุกิจ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ และนางภูษณิศ ไชยมณี หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้านปริมาณและราคาสินค้าของหน้ากากอนามัย N-95 และเครื่องฟอกอากาศ ณ ห้างโมเดิร์นเทรด และร้านขายยา ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ผลการตรวจสอบพบว่า หน้ากากอนามัย N-95 มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ราคาจำหน่าย 21-30 บาท/ชิ้น สถานการณ์ราคาทรงตัว ไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคา
ขณะที่เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก ราคา 1,900-3,200 บาท ในห้างโมเดิร์นเทรด ประชาชนให้ความสนใจซื้อหาจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้สินค้าหมดสต๊อกทุกห้าง อยู่ระหว่างสั่งเข้ามาเพิ่มเติม สถานการณ์ราคาทรงตัวไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคา ด้านเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ และมีประสิทธิภาพในการกรองอากาศสูง ราคา 50,000 บาทขึ้นไป ยังคงมีจำหน่ายและประชาชนให้ความสนใจซื้อเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ สินค้าทุกชนิดมีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าชัดเจน ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้กวดขันผู้ประกอบการ มิให้ทำการกักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า พร้อมทั้งปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการอย่างเคร่งครัด
