แค่คืนเดียวเชียงใหม่จุดความร้อนพุ่งอีก ผู้ว่าฯ คาดโทษมือเผาอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายออกจากพื้นที่ป่า

แค่คืนเดียวเชียงใหม่จุดความร้อนพุ่งอีก ผู้ว่าฯคาดโทษมือเผาอยู่ไม่ได้ ต้องย้ายออกจากพื้นที่ป่า ย้ำประกาศเขตภัยพิบัติ นำกำลังทหารเสริม

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าวานนี้ฟ้าเริ่มเปิดจากกระแสลมแรงและแดดจัดทำให้ฝุ่นยกตัว แต่ช่วงค่ำและตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาพบการเผาไหม้เพิ่มมากขึ้นอย่างหนัก ทำให้เช้านี้ท้องฟ้ามืดครึ้มและเป็นสีเทาขุ่นอีกครั้ง

โดยศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานพบจุดความร้อน (Hotspot) รอบเช้า จำนวน 111 จุด ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.แม่แจ่ม 11 จุด แม่ออน 8 จุด เวียงแหง 5 จุด ดอยสะเก็ด 3 จุด หางดง 2 จุด ไชยปราการ 2 จุด สะเมิง 2 จุด เชียงดาว 1 จุด ฝาง 1 จุด อมก๋อย 1 จุด กัลยาณิวัฒนา 1 จุด แม่แตง 1 จุด ในป่าอนุรักษ์ อ.เชียงดาว 24 จุด ฝาง 9 จุด แม่แตง 7 จุด ไชยปราการ 5 จุด ดอยเต่า 5 จุด พร้าว 4 จุด สันทราย 4 จุด เวียงแหง 4 จุด สะเมิง 3 จุด ฮอด 2 จุด แม่ริม 2 จุด หางดง 1 จุด ดอยสะเก็ด 1 จุด จอมทอง 1 จุด และแม่อาย 1 จุด สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงปัจจุบัน จำนวน 8,186 จุด

Advertisement

ข้อมูลสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ ภาพรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่เช้านี้อันดับ 1 ต.เมืองคอง อ.เชียวดาว มีจำนวนฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน สูงมากถึง 795 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) คุณภาพอากาศอันตราย เช่นเดียวกันกับพื้นที่ชุมชนสวนดอก ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ มีจำนวนฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน สูงถึง 307 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m³) ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในทุกพื้นที่ ควรงดกิจกรรมนอกอาคาร ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด เลี่ยงการออกกำลังกายหรือกิจกรรมกลางแจ้ง และประชาชนทุกกลุ่มควรสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นขนาดเล็กตามมาตรฐาน เช่น หน้ากาก N95 N94 R95 P2 KN95

สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่รับผิดชอบพบมีค่าระหว่าง 69-211 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ จุดความร้อน หรือ Hotspot เกิดขึ้น จำนวน 458 จุด (เชียงราย 133 จุด เชียงใหม่ 130 จุด แม่ฮ่องสอน 177 จุด และลำพูน 18 จุด) คาดการณ์การสะสมของฝุ่นละอองภาพรวมภาคเหนือวันพรุ่งนี้ คุณภาพอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ

Advertisement

นายบัณรส บัวคลี่ ที่ปรึกษาสภาลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อคืนมีการเผากันระเบิด ในลักษณะเผาทิ้งทวน คือแบบจะไม่ได้เผาอีกตั้ง 10 เดือน พิกัดสูงทั้งภาคเหนือ อาทิ แม่ทา-ขุนตาน รอยต่อ จ.ลำพูน และ จ.ลำปาง เป็นจุดเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกปี พื้นที่ผาข้าง นันทบุรี ขุนน่าน โซนเหนือ จ.แพร่ จ.น่าน ในขณะที่เมืองนะ หัวโท ปางเฟือง ทาง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก็ยังหนัก คาดเป็นเพราะทราบว่าฝนจะมาในช่วงวันที่ 8-10 เมษายนนี้

ด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงสถานการณ์หมอกควันไฟป่าฯ ว่านับจากวันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันพบการเผาหนักทุกวันเฉลี่ย 200-600 จุด ทำคุณภาพอากาศพุ่งขึ้นรายวัน ในด้านสุขภาพขณะนี้เชียงใหม่แจกจ่ายหน้ากากอนามัยชนิด N95 ไปแล้วกว่า 7 แสนชิ้น ออกประกาศพื้นที่เขตภัยพิบัติเชียงใหม่ประกาศเขตภัยพิบัติไฟป่า 7 พื้นที่ ประกอบด้วย พื้นที่หมู่ 7 ต.บ้านปง อ.หางดง หมู่ 3 ต.แม่เหียะ อ.เมือง และหมู่ 12 ต.สุเทพ อ.เมือง พื้นที่ อ.แม่แตง หมู่ 1, 2, 3, 5, 6, 7 ต.บ้านเป้า หมู่ 1, 8, 9 ต.แม่หอพระ และหมู่ 5 ต.ช่อแล พื้นที่ อ.พร้าว หมู่ 12, 14 ต.สันทราย หมู่ 5, 10, 11 ต.ป่าตุ้ม และหมู่ 9 ต.แม่แวน พื้นที่ อ.เชียงดาว หมู่ 5, 6, 8, 10 ต.เชียงดาว และหมู่ 12 ต.แม่นะ พื้นที่ อ.แม่ริม หมู่ 3 ต.ดอนแก้ว ซึ่งทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ​อุทยานแห่งชาติศรีลานนา เขตดอยหลวงเชียงดาว และเขตห้วยตึงเฒ่า เนื่องจากสถานการณ์เกินกว่าปกติที่จะควบคุมได้ภายใน 2-3 วัน และสามารถออกประกาศเพิ่มเติมได้อีกตามสถานการณ์จริง ทั้งนี้ เพื่อนำอุปกรณ์ กำลังคน และกำลังทหารเข้าพื้นที่ในการดับไฟ ลาดตระเวน และหยุดการเผา

“ยอมรับว่ามีการแอบเผาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตป่า ขอร้องให้หยุด หากไม่หยุดกระทำความผิดก็จำเป็นต้องย้ายออก แบบนี้อยู่ไม่ได้ รวมทั้งขอให้เลิกความเชื่อเก่าๆ ที่ว่าเผาป่าเพื่อได้ผักหวาน เห็ดถอบ และให้หญ้าระบัดเกิดสำหรับเลี้ยงวัว ส่วนกรณีห้วยตึงเฒ่าซึ่งอยู่ใกล้เมืองที่สุด เกรงว่าจะลามขึ้นสู่ดอยสุเทพ และควันไหลเข้าตัวเมือง ล่าสุดประสานแม่ทัพภาคที่ 3 นำกำลังพลเข้าทำป่าเปียกเพื่อสกัดไฟ ทำให้จุดไฟได้ยากขึ้นหลังป่าเปียก”

นายนิรัตน์กล่าวว่า ช่วงนี้การทำฝนหลวงทำได้ยากเพราะไม่มีความชื้นเพียงพอ คาดว่าในช่วงก่อนสงกรานต์จะมีฝนตก ซึ่งจะตกประจำทุกปี น่าจะช่วยล้างฝุ่นไปได้ ซึ่งนักท่องเที่ยวเข้าใจในสถานการณ์นี้ดีว่า หากฝนมาทุกอย่างจะคลี่คลาย

นางผ่องพรรณ ศิริวัฒนาวงศา รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาว 5 วันของเทศกาลสงกรานต์มีการประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่กว่า 100,000 คน ทำให้เกิดการหมุนเวียนรายได้กว่า 1,100 ล้านบาท โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 78-80% ด้วยกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจตลอดเทศกาล ทั้งการตักบาตรทำบุญที่ลานประตูท่าแพ และหัววัดสำคัญต่างๆ ขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ การแจกน้ำทิพย์จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 17,772 ขวด เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปี๋ใหม่เมืองของชาวล้านนา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image