ไฟป่าลามพื้นที่ดอยตุงเสียหายกว่า 500 ไร่ จนท.เร่งดับ เฝ้าระวังอีก 7 อำเภอ

เมื่อวันที่ 6 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีควบคุมไฟป่าดอยตุง โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เจ้าหน้าที่ของสถานี ร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหารกองกำลังผาเมือง กำลังอาสาสมัครดับไฟป่า และรถดับเพลิง อีก 8 คัน เข้าไประงับเหตุไฟป่าที่โหมลุกไหม้อย่างหนักบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา เขตติดต่อหมู่บ้านผาบือและหมู่บ้านลาบา ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยไฟได้ลุกไหม้ผืนป่าและหญ้าแห้งจนเกิดเป็นเปลวร้อนเต็มขุนเขาและพื้นที่ที่อยู่ติดกับถนนเลียบชายแดน รวมทั้งได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว แต่ไฟก็ขยายวงสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องฉีดพ่นน้ำและทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามขยายวงออกไป

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา มีกระแสลมแรงต่อเนื่องทำให้ไฟลุกลามข้ามแนวกันไฟครอบคลุมพื้นที่ป่าประมาณ 500 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 91,779 ไร่ โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนในการเกิดไฟป่าครั้งนี้ กระทั่งเวลาประมาณ 23.40 น. สามารถควบคุมไฟได้แล้วประมาณ 70% และยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุของไฟป่าครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการลุกลามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่เกิดจากสายไฟฟ้าพาดลงมาถูกก่อไผ่แห้ง ทำให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดเปลวไฟลุกไหม้และลามขยายวงตั้งแต่ช่วงบ่ายอย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าดอยตุงเข้าไปสกัดเพลิงแต่ควบคุมไม่ได้จึงรีบประสานหน่วยงานต่างๆ เพื่อร่วมกันเข้าดับ

ล่าสุดทหารจากเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.2 ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าร่วมดับไฟที่ลุกลามหนักในพื้นที่หมู่บ้านผาบือ-บ้านลาบา ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง โดยเจ้าหน้าที่พยายามสกัดไม่ให้ไฟลามข้ามถนนทางขึ้นดอยตุงสายเก่า เพื่อไม่ให้ลามไปยังพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านลาบา จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แล้ว

ADVERTISMENT

โดยนายปิยะพงษ์ ศรไชย หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าดอยตุง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีแบบธรรมชาติโดยให้มีเผาไหม้ในจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึงเพื่อลดอันตราย จากนั้นทำแนวกันไฟตามธรรมชาติ เช่น ลำห้วย สวนกาแฟ ฯลฯ เพื่อให้ไฟยุติการลุกลาม รวมทั้งชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ก็ได้ช่วยกันทำแนวกันไฟไม่ให้ไฟลามไปถึงหมู่บ้านด้วย ส่วนจุดที่อาจเกิดไฟลามข้ามถนนก็ฉีดพ่นน้ำสกัดเอาไว้โดยเฉพาะ ไม่ให้ลามไปยังสถานที่สำคัญ เช่น พระธาตุดอยตุง โรงงานผลิตเมล็ดแมคคาเดเมีย ฯลฯ ทั้งนี้ ผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ต่างบอกตรงกันว่าเป็นไฟป่าที่หนักที่สุดในรอบ 20 ปี ส่วนความเสียหายจะได้ตรวจสอบทางอากาศหรือจีพีเอสอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าไม่น้อยกว่า 200 ไร่

ADVERTISMENT

นอกจากพื้นที่ดอยตุง พบว่าที่ดอยจระเข้ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ป่าดอยพระบาท ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย พบว่าไฟป่ายังคงคุกรุ่นทำให้เจ้าหน้าที่ได้นำเฮลิคอปเตอร์ KA 32 จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นำน้ำไปโปรยตรงจุดที่สูงชันและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าภาคพื้นที่ดินเข้าไปถึงได้ยากและผลจากการโปรยน้ำเมื่อวันที่ 5 เม.ย.จำนวน 12 เที่ยว สามรถยับยั้งไฟไม่ให้ลุกลามออกไปได้กว่า 70-80% นอกจากนี้ไฟยังโหมลุกไหม้ป่าเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวงติดกับหมู่บ้านถ้ำปางสา ต.สันกลาง อ.พะน จนเกิดเปลวไฟและควันเขาเต็มขุนเขาในช่วงคืนที่่ผ่านมาด้วย

ด้าน ศบก.ไฟป่า จ.เชียงราย ตรวจสอบจุดความร้อนหรือ Hot Spot ในช่วงเช้าวันที่ 6 เม.ย.นี้ พบว่ามีจำนวน 271 จุด โดยพบมากในเขต อ.แม่สรวย จำนวน 53 จุด อ.เมืองเชียงราย จำนวน 52 จุด อ.พาน จำนวน 50 จุด อ.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 19 จุด อ.เวียงแก่น จำนวน 18 จุด อ.เทิง จำนวน 17 จุด อ.เวียงป่าเป้า จำนวน 16 จุด ฯลฯ ซึ่งทางผู้ว่าฯเชียงราย ยังคงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าดับไฟและเฝ้าระวังการลุกลามในทุกพื้นที่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image