เชียงรายฝุ่น PM2.5 ยังวิกฤต ทำคนป่วยเข้าห้องฉุกเฉินวันเดียว 60 ราย
เมื่อวันที่ 9 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมควบคุมมลพิษรายงานว่า พื้นที่ อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา มีปริมาณฝุ่น PM2.5 ในปริมาณ 249 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อ.เมืองเชียงราย มีปริมาณ 168 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว มีปริมาณ 194 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยแต่ละพื้นที่ถือว่าอยู่ภายในสภาวะอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาได้นานเกือบ 2 เดือนเต็มแล้ว โดย อ.แม่สาย เกิดขึ้นแล้วจำนวน 56 วัน อ.เมืองเชียงราย 49 วัน และ อ.เชียงของ 58 วัน
ล่าสุด นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงราย (ศบก.) ไฟป่า จ.เชียงราย ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทำการดับไฟป่าและแนวกันไฟตามภูเขาต่างๆ ที่เกิดไฟอย่างหนักในหลายอำเภอของ จ.เชียงราย นั้น ล่าสุด กรมป่าไม้ได้ตรวจสอบจุดความร้อน หรือ Hot Spot ในช่วงเช้าพบว่าเหลืออยู่เพียงจำนวน 55 จุด จากเดิมที่มีกว่า 100-200 จุด โดยพบว่าคงเหลือมากที่สุดในเขต อ.แม่สรวย จำนวน 42 จุด อ.เวียงป่าเป้า จำนวน 5 จุด อ.พาน จำนวน 4 จุด อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาก พบว่าเหลือเพียง 2 จุด อ.แม่จัน 1 จุด และ อ.เทิง 1 จุด
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข จ.เชียงราย รายงานสถานการณ์ด้านสุขภาพของประชาชนกรณีฝุ่น PM2.5 ว่า ในวันที่ 9 เมษายนนี้ มีผู้ป่วยใน 7 กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาทั้งสิ้น 142 ราย โดยเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน 60 ราย ผู้ป่วยใน 14 ราย และผู้ป่วยนอก 68 ราย