ตาวัย 63 คลั่งระแวงเมียเป็นชู้ จุดไฟเผาบ้านเพื่อน พร้อมรถยนต์ 2 คันแถมยิงปืนขู่ ตำรวจตามรวบตัวอ้างเมาสุรา ด้านเพื่อนบ้านสุดผวา แต่โชคยังดีหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด บ้าน รถ เสียหาย คาดคลั่งระแวงเมีย
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ที่ สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พ.ต.อ.สายชล โพธิ์ขอม ผกก.สภ.โพธิ์ทอง พ.ต.ท.ประสาท คลี่บุญ รอง ผกก.สส.สภ.โพธิ์ทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง เข้าควบคุมตัวนายบุญสืบ ทันสร อายุ 63 ปี ชาวตำบลทางพระ อำเภอโพธิ์ทอง นำตัวมาทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ.โพธิ์ทอง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นายบุญสืบได้เกิดการคลุ้มคลั่งเข้าไปยังบ้านนายทองหยด แก้วมีสี อายุ 68 ปี แล้วก่อเหตุจุดไฟเผารถยนต์ จำนวน 2 คัน รถยนต์มิซูบิชิสีดำได้รับความเสียหายบางส่วน และรถกระบะที่บรรทุกเครื่องมือช่างอยู่ท้ายกระบะได้รับความเสียหายบางส่วน ซึ่งรถยนต์ทั้ง 2 คัน จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะพังประตูบ้านเข้าไป แล้วใช้น้ำมันราดบริเวณห้องรับแขกของบ้าน แล้วจุดไฟเผาจนได้รับความเสียหาย ทั้งทีวี ตู้ โต๊ะ โซฟา เสียหายทั้งหมด และยังใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด กราดยิงเข้าไปในบ้านที่ฝาผนังบ้านมีร่องรอยเป็นรู
ด้านนายทองหยดเจ้าของบ้าน ขณะเกิดเหตุนอนอยู่ในห้องนอน 3 คนพ่อแม่ลูก จึงได้รีบหนีออกมาทางประตูด้านหลังบ้าน พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป เบื้องต้นทางนายทองหยด และครอบครัวไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ขวัญเสียครอบครัวผวาอย่างหนัก ส่วนบ้านและรถยนต์ได้รับความเสียหาย
จากการสอบถามนางรัตนา แก้วมีสี อายุ 48 ปี ภรรยาของ นายทองหยด ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อตอนค่ำของวันที่ 3 พ.ค. ครอบครัวได้นอนอยู่ในบ้าน แต่จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดัง และผู้ก่อเหตุก็ได้จุดไฟเผารถของตนทั้งสองคัน โดยใช้ที่พ่นกระป๋องยาฆ่าแมลงเป็นที่ใส่น้ำมัน ฉีดเข้าบ้านและจุดไฟเผา พร้อมทั้งใช้ปืนยิงข่มขู่แล้วหลบหนีไป
นายทองหยดกล่าวว่า ตนอยู่ภายในห้องนอนพร้อมภรรยา และลูกสาว วัย 13 ปี ได้ยินเสียงสุนัขเห่า มีไฟลุกขึ้นในบ้าน พร้อมเสียงปืนดังขึ้น ตกใจมากและรีบหลบหนีออกทางหลังบ้าน ครอบครัวของตนรู้สึกหวาดกลัวมาก โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่บ้านและรถยนต์ 2 คันเสียหาย หวาดกลัวมากคาดผู้ก่อเหตุคลั่งหวาดระแวงหวงภรรยาของผู้ก่อเหตุเอง และเคยข่มขู่ว่าจะทำร้ายครอบครัวตน ซึ่งไม่ได้คุยกับผู้ก่อเหตุมาหลายปีแล้ว บ้านก็อยู่ห่างกันประมาณ 300 เมตร แต่ผู้ก่อเหตุชอบกล่าวหาว่าตนเป็นชู้คบหากับภรรยาของผู้ก่อเหตุ แต่ตนก็นิ่งเฉยไม่ได้ตอบโต้ เพราะไม่อยากมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ จนได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมา จึงคิดว่าน่าจะเป็นเพราะแรงหึงหวงของผู้ก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวสอบถาม น.ส.วาสนา พงศ์สุข อายุ 37 ปี ที่อยู่ติดกับบ้านผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า ได้ยินเสียสุนัขเห่าจึงมองดูที่บริเวณหน้าต่างเห็นนายบุญสืบกำลังก่อเหตุ จึงถ่ายภาพไว้ขณะที่ยืนดูไฟลุกท่วมอยู่หน้าบ้านของ นายทองหยดและยิงปืนเข้าบ้านแล้วได้หลบหนีไป ตนจึงแจ้งดับเพลิงและตำรวจเข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวได้ในตอนเช้าที่บ้านของผู้ก่อเหตุ
ด้านนายอนุสิทธิ์ สีใส วัย 36 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า ก็โดนนายบุญสืบไล่ยิง โดยในช่วงเกิดเหตุนั้นตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณที่เกิดเหตุ ทางนายบุญสืบได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไปถึงบริเวณหน้าวัดกาไสย์ ซึ่งห่างจากจุกที่ก่อเหตุประมาณ 300 เมตร แล้วใช้ปืนไม่ทราบขนาดยิงตนเข้าไป จำนวน 4 นัด แต่โชคดีที่ตนหนีรอดมาได้ จึงไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ทางด้านชาวบ้านในพื้นที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายบุญสืบผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมชอบยิงปืนข่มขู่ในหมู่บ้านเป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านหวาดระแวงในความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมา นายบุญสืบผู้ก่อเหตุเคยติดคุกในคดีฆ่าคนตายมาแล้ว โดยออกมาจากเรือนจำได้หลายปีแล้ว แต่ยังชอบยิงปืนข่มขู่ชาวบ้านประจำในช่วงยามค่ำคืน ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้นอยู่บ้านเพียงคนเดียวห่างจากบ้านผู้เสียหายประมาณ 300 เมตร
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัว นายบุญสืบไปสอบสวนและตรวจปัสสาวะเบื้องต้น พบว่ามีสารเสพติดจาการสอบสวนสาเหตุที่คลั่งอาละวาด เนื่องจากเมาสุรา หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนอาวุธปืนหล่นหายระหว่างทาง ก่อนกลับมาบ้านแล้วถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นำตัวไปสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
