ยังวุ่น! ขอเวลาอีก 7 วัน หาทางออกจัดระเบียบค้าขายหน้าวัดพระธาตุพนม รอพื้นที่ขายของลงตัว
วันที่ 20 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดระเบียบบรรดาพ่อค้า แม่ค้า หน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ยังคงไม่จบง่าย หลังจากทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิกองทัพธรรม ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนมฯ ประธานประสานงานดูแลบริหารทั้งภายนอกภายในวัด ได้ร่วมกับคณะกรรมการวัด รวมถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ทำการจัดระเบียบ ออกคำสั่งให้ บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ขายดอกไม้เร่ รวมถึงขายลอตเตอรี่ แผงลอย ออกจากพื้นที่โซนนิ่ง จัดระเบียบ บริเวณถนนตัวทีหน้าวัด เพื่อให้เป็นไปตามมติของกรรมการวัด เตรียมพร้อมเสนอวัดพระธาตุพนมฯ ขึ้นทะเบียนมรดกโลก จนเกิดข้อพิพาทกันหลายครั้ง และมีการออกกฎเหล็ก เตรียมปิดวัดพระธาตุพนมฯ เพื่อจัดระเบียบ มาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายปัญหายังไม่จบ ล่าสุดมีการเตรียมสั่งปิดวัด ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2566
ขณะเดียวกัน ทางด้านนายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้ลงพื้นที่ ประชุมหารือร่วมกับพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมฯ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อหารือแก้ไขปัญหา พร้อมเจรจากับทางบรรดาพ่อค้าแม่ค้า เพื่อหาทางออก จนได้ข้อสรุปมีการขยายเวลา ออกไป 7 วัน เพื่อจัดสรรพื้นที่ให้บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ไปขายของ และออกจากพื้นที่โซนนิ่งจัดระเบียบ บริเวณถนนตัวที หน้าวัด
ทั้งนี้ ทางบรรดา พ่อค้า แม่ค้า ยินดี ให้ความร่วมมือ แต่มีปัญหา คือ ทางวัดยังไม่มีพื้นที่ชัดเจนรองรับพ่อค้า แม่ค้า จึงต้อง วางของขายในพื้นที่จัดสรรให้ชั่วคราว เพราะต้องหาเงินเลี้ยงชีพวันต่อวัน ส่วนคำสั่งปิดวัดพระธาตุพนมฯ ทางกรรมการ จะใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย หากไม่สามารถแก้ไข จัดระเบียบได้ เพราะจะเกิดปัญหากระทบเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ในพื้นที่
จากการสอบถามบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ขายของหน้าวัดพระธาตุพนม ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาฝ่าฝืนคำสั่ง หรือแหกกฎกติกาของวัด ยินยอมที่จะออกจากพื้นที่โซนนิ่งห้ามขายของ แต่ทางวัดรับปากว่าจะจัดพื้นที่ขายของให้ แต่ยังไม่มีความชัดเจน และพื้นที่วางขายของมีไม่เพียงพอ ทำให้ พ่อค้า แม่ค้า ต้องมีการวางขายของ ในพื้นที่ชั่วคราว ถนนตัวที ซึ่งเป็นพื้นที่จัดระเบียบ เนื่องจากหากออกไปวางขายจุดอื่นไม่สามารถขายของได้ กระทบความเป็นอยู่ สิ่งที่พ่อค้า แม่ค้า ต้องการ คือมาตรฐานการจัดระเบียบ ความชัดเจนในพื้นที่วางขายของ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่มีความเหลื่อมล้ำกัน ทุกคนจะต้องไปอยู่ในพื้นที่เดียวกัน รวมถึงจัดพื้นที่จอดรถให้เป็นระเบียบ เพราะมีผลต่อการค้าขาย ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาจอดรถ จะได้จับจ่ายซื้อของ วอนเห็นใจพ่อค้า แม่ค้า ที่ยึดอาชีพมาหลาย 10 ปี การจัดระเบียบ จะต้องใช้เวลา ไม่อยากให้เอากฎหมายมาข่มขู่ ออกจากพื้นที่ แต่สุดท้ายไม่มีที่รองรับ